เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 เพื่อดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ และข้าราชการ ที่ถูกร้องเรียนหรือถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ตามที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เสนอ โดยบัญชีรายชื่อผู้ถูกร้องเรียนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม จำนวน 70 คน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ที่ประชุมคสช.รับทราบการออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ และข้าราชการ ที่ถูกร้องเรียนหรือถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ตามที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เสนอ โดยบัญชีรายชื่อผู้ถูกร้องเรียนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม จำนวน 70 คน
ได้แก่ 1.กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา 1 ราย ให้ระงับการปฎิบัติราชการหรือปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว แต่ได้รับเงินเดือนอยู่ 2.กลุ่มข้าราชการพลเรือน 6 ราย 3.กลุ่มพนักงานอื่นๆของรัฐ 2 ราย โดยให้ให้ระงับการปฎิบัติราชการหรือปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว และให้ไปปฎิบัติราชการตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย และคงได้รับเงินเดือนอยู่
4.กลุ่มผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 37 ราย ให้ระงับการปฎิบัติราชการหรือหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดำรงตำแหน่งอยู่เป็นการชั่วคราว และไม่ได้รับค่าตอบแทน และ5.กลุ่มข้าราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 24 ราย โดยให้ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตั้งอยู่ หรือไปปฎิบัติหน้าที่ตามที่ผู้ว่าราชการกำหนด หรือมอบหมายให้ข้าราชการผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชา มอบหมายภารกิจให้ได้ ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้รับเงินประจำตำแหน่ง และสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการชั่วคราว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนตรวจสอบนั้น ทางศอตช.จะแจ้งสาเหตุที่ถูกตรวจสอบส่งไปให้หน่วยงานต้นสังกัดของทั้ง 70 ราย ได้รับทราบ โดยผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เห็นผลภายใน 30 วัน หากไม่เสร็จต้องขอขยายเวลาในการตรวจสอบต่อไปตามความจำเป็น เมื่อตรวจแล้วไม่พบว่ากระทำผิดหรือต้องดำเนินการทางวินัย ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานนั้นๆต้องสรุปผลแจ้งมาให้ศอตช.รับทราบ เพื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ให้เสร็จภายใน 30 วัน และนำผลการตรวจสอบมาเปรียบเทียบกัน หากผลตรงกันให้ว่าไปตามผลสอบ แต่หาผลสอบของต้นสังกัดถ้าไม่ตรงกับศอตช.ให้ศอตช.หารือร่วมกับผู้บังคับบัญชาหน่วยงานนั้นๆเพื่อให้ได้ข้อสรุป และปฎิบัติไปตามนั้น
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_452540
