บุกขืนใจในรพ. จนท.สาว ตร.ข้ามโขงล่าตัว มีดจี้-ลากเข้าซอกตึกสุดระทึก พิลึกใช้”การบูร”ทาจู๋
หนุ่มหื่นบุกข่มขืนสาวผู้ช่วยพยาบาลถึงในโรงพยาบาลประจำจังหวัดหนองคาย ผอ.ร.พ.เผยเหตุเกิดเมื่อช่วงดึก วันที่ 16 ก.ค. คนร้ายพกมีดเข้ามาในร.พ. จนท.เห็นท่าไม่ดีแจ้งรปภ.ให้ล็อกตัว แต่หนุ่มหื่นกลับหลบหนีฉุดเหยื่อเข้าซอกตึก ซ้อมฟันหัก 2 ซี่ แล้วข่มขืนสำเร็จความใคร่ หลัง เกิดเหตุ รปภ.ตามตะครุบ แต่ต่อสู้จนหลบหนี ไปได้ ล่าสุดประสานตร.ลาว ล็อกตัวได้แล้ว อยู่ระหว่างประสานส่งตัวกลับมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.ค. พ.ต.อ. วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.เอ นามสมมติ อายุ 25 ปี ผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลหนองคาย บริเวณซอกตึกด้านหลังอาคารสำนักงานซักฟอก ซึ่งเป็นตึกอยู่ด้านหลังของโรงพยาบาลหนองคาย โดย นพ.ศุภชัย จรรยาผดุงพงศ์ ผอ.ร.พ.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบด้วย จากการตรวจสอบพบรอยคราบเลือดติดอยู่บริเวณผนังอาคารสำนักงานซักฟอกและขอบหน้าต่าง
นพ.ศุภชัยแถลงภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายบริเวณสำนักงานซักฟอก จึงรีบเข้าตรวจสอบ พบน.ส.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นพนักงานจ้างในตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายใช้กำลังบังคับกระทำอนาจาร ชกใบหน้าจนฟกช้ำ ฟันหัก 2 ซี่ สภาพจิตใจบอบช้ำ จึงให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว และทางโรงพยาบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยืนยันระบบการรักษาความปลอดภัยของทางโรงพยาบาลว่ามีมาตรการที่เข้มงวดแล้ว
จากการสอบถามและตรวจจากกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลพบว่า มีคนร้ายเป็นชายสวมกางเกงขาสั้น เสื้อคลุมสีเทา รองเท้าแตะ สะพายเป้สีดำ ใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้า พกมีดเหน็บที่ขอบกางเกง เดินเข้ามาภายในตึกผู้ป่วยพิเศษ ช่วงเวลาประมาณ 19.59 น. วันที่ 16 ก.ค. ซึ่งระบบของโรงพยาบาลจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าอาคารหลัง 20.00 น. และในส่วนของเจ้าหน้าที่จะใช้ระบบคีย์การ์ด เข้าออก
เมื่อคนร้ายเข้าไปในอาคารผู้ป่วยพิเศษ และพยายามจะเข้าไปในส่วนปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ มีพยาบาลคนหนึ่งเห็นท่าทาง ไม่ค่อยดี จึงล็อกประตูห้องไม่ให้คนร้ายเข้าไป พร้อมทั้งสอบถามว่ามาเยี่ยมใคร คนร้ายมีท่าทีลุกลี้ลุกลนบอกว่าจะมาเยี่ยมญาติ พยาบาลสังเกตเห็นมีดที่เหน็บอยู่เอว จึงไม่อนุญาตให้เข้ามา แจ้งให้ รปภ.ทราบ แต่ระหว่างที่ รปภ.กำลังจะเข้าไปเชิญตัวออกมา คนร้ายรีบวิ่งลงบันไดตึกมาก่อนแล้ว รปภ.ออกตามหา ขณะเดียวกัน น.ส.เอ เดินไปรับผ้าปูเตียงเพื่อมาเปลี่ยนที่เตียงคนไข้ จู่ๆ คนร้ายก็วิ่งมาใช้มีดข่มขู่บังคับกระชากตัว น.ส.เอ พาไปยังซอกตึก พยายามจะข่มขืน น.ส.เอต่อสู้ขัดขืน แต่ก็ถูกชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง จนเกือบหมดสติ คนร้ายลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่
จากนั้นคนร้ายเดินออกมาจากซอกตึก รปภ. ที่ออกตามหามาเจอ ก็ต่อสู้กับคนร้าย แต่จับตัวไว้ไม่ได้ และคนร้ายกระโดดปีนรั้วด้านหลังโรงพยาบาลหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ น.ส.เอ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ด้าน พ.ต.อ.วุฒิชัยกล่าวว่า หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่สายตรวจรีบออกไปตรวจสอบและติดตามจับกุม โดยพบว่าคนร้ายวิ่งไปตามถนนเส้นหลังโรงพยาบาล และวิ่งไปถึง ซอยท่าค่าย มีรอยเท้าเดินลงแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ค้นหาอย่างละเอียดแต่ก็ยังไม่พบ เมื่อออกตรวจสอบที่เกิดเหตุได้พบหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ คือ กางเกงขาสั้น กางเกงชั้นใน และกระเป๋าเป้ ซึ่งจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนเกิดเหตุ ชายต้องสงสัยตรงตามภาพของโรงพยาบาล ไปที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งเพื่อไปซื้อการบูร แล้วเอามาทาอวัยวะเพศของตัวเองพร้อมกับพูดแสดงความต้องการทางเพศ อยู่หน้าร้าน จากนั้นไม่นานก็ได้รับแจ้งเหตุ
จากการสืบสวนของตำรวจ มั่นใจว่าคนร้ายคือ นายปุ้มปุ้ย เกษานุช อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 หมู่ 10 ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีประวัติทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ติดคุก 1 ปี เมื่อปี 2558 จากนั้นเมื่อ พ.ค.2560 ก่อเหตุข่มขืนหญิงคนหนึ่ง อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม และมา ก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้ โดยคนร้ายมีลักษณะคล้ายคนมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งได้ออกหมายจับข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้กำชับให้ติดตามจับกุมและไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นคดีที่คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ประสานหน่วยงานข้างเคียงติดตามจับกุม แต่เนื่องจากนายปุ้มปุ้ย ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เร่ร่อนไปเรื่อยๆ รวมถึงตรวจสอบว่ามีการลักลอบเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านด้วยหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดชุดสืบสวนทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่เดินทางข้ามแดนไปเพื่อประสานกับตำรวจลาว เร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_445866