มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอิรวดี (Irrawaddy) ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “Nyi Kep” รองผู้นำทหารกองทัพว้าในพื้นที่ 171 ฝ่ายด้านการเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมอยู่ทางใต้ของกองทัพว้า ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมืองโต๋น ทางตะวันออกของรัฐฉาน ตรงข้ามกับอำเภอเชียงดาว หลังจากทางว้าได้เชิญผู้สื่อข่าวเข้าร่วมทำข่าวในงานทำลายยาเสพติดที่สามารถยึดมาได้ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันต่อต้านยาเสพติดโลก โดยในโอกาสนี้ทางกองทัพว้าให้สัมภาษณ์ว่าจะเดินหน้าขอให้เขตปกครองพิเศษของตนเองเป็นรัฐอิสระปกครองตนเองจากรัฐบาลพม่า โดยทางกองทัพว้าระบุว่า ทางว้านั้นต้องการให้เขตพื้นที่ควบคุมของตนเองเป็นรัฐอิสระ โดยเห็นว่าข้อเรียกร้องนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทางกองทัพว้า แต่หากรัฐบาลพม่าไม่ยินยอม ทางว้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ก็เชื่อว่า สื่งที่ร้องขอนั้นจะสำเร็จและเกิดขึ้นได้หากวันหนึ่งมีสันติภาพและการพัฒนาเกิดขึ้น นอกจากนี้ทางว้ายังระบุว่า ต้องการให้ฝ่ายพม่าปฏิบัติกับกลุ่มชาติพันธุ์แบบไม่เห็นแก่ตัว นอกจากนี้ยังระบุว่า เขตพื้นที่ 171 นั้นเคยเป็นพื้นที่ควบคุมของกองทัพขุนส่าในอดีต แต่หลังจากทางว้าช่วยกองทัพพม่ารบกับกลุ่มขุนส่า ทางกองทัพพม่าก็ได้ยกพื้นที่นี้ให้กับกองทัพว้าปกครอง “เราได้โจมตีขุนส่าและกองทัพของเจ้ายอดศึกตอนที่พวกเขามีอำนาจ” อย่างไรก็ตาม ผู้นำว้ายอมรับประสบกับความยากลำบากอยู่ไม่น้อย เนื่องจากพื้นที่ 171 นั้นอยู่ใกล้กับเขตพื้นที่ควบคุมของกองทัพพม่าด้วย มีทั้งทหารพม่าและทหารพม่าประจำอยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ผู้นำว้าในเขต 171 ยังย้ำว่า จะไม่ยอมถอนกำลังออกจากแนวชายแดนที่ติดกับไทยตามที่ฝ่ายไทยร้องขอ อ้างกองทัพพม่าได้ยกพื้นที่นี้ให้แล้ว และระบุ ฝ่ายไทยไม่ใช่รัฐบาลของว้าที่จะสั่งการให้ทำอะไรก็ได้ ส่วนในด้านยาเสพติด ทางกองทัพว้าระบุว่า ในพื้นที่ 171 นั้นไม่มีการทำไร่ฝิ่นแล้ว หลังจากทางว้าได้ทำการปราบปรามอย่างหนักในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และว้าได้พยายามลบภาพของตัวเองในฐานะผู้ผลิตยาเสพติด แต่ก็ยอมรับว่า ยังถูกไทยกล่าวหาว่าเป็นตัวการที่ทำให้ยาเสพติดทะลักเข้าไทย โดยยกตัวอย่างว่า หากมีการยึดยาเสพติดได้ในฝั่งไทย ว้าก็มักถูกกล่าวหาว่ายาเสพติดนั้นมาจากเขตปกครองของว้า “พวกเขาทำให้ชื่อของเราดูไม่ดี พวกเขาเอาคำกล่าวหามากองไว้หน้าประตูของเรา พวกเขาสนใจแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น” Nyi Kep กล่าว
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีเกี่ยวกับการค้าอาวุธสงครามตามแนวชายแดนในพื้นที่นี้ที่ถูกไทยกล่าวหาระบุว่าว้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว้านั้นไม่ได้ส่งขายอาวุธไปไทยหรือซื้ออาวุธมาจากไทย แต่ระบุการค้าอาวุธในพื้นที่ชายแดนนั้นมีกลุ่มลาหู่และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆเกี่ยวข้องจริงแต่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ว้านั้นต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยหรือไม่ ทางผู้นำว้านั้นบอกว่าในอดีตนั้นเคยมีแผน “ทางการไทยต้องการขับไล่เราไปให้พ้น พวกเขาไม่อยากให้เราอยู่ พวกเขาวางแผนและใช้ประโยชน์จากชื่อของเรา” ทางผู้นำว้ากล่าว กองทัพว้า UWSA นั้นเป็นกองกำลังกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เข้มแข็งที่สุดในบรรดากลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในพม่า เชื่อว่ามีทหารอยู่ในกองทัพราว 30,000 นาย นอกจากนี้ยังมีทหารกองหนุนอีกราว 10,000 คน เขตปกครองของว้านั้นตั้งอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ติดชายแดน จ.เชียงราย และทางด้านชายแดนที่ติดกับประเทศจีน จากข้อมูลของสำนักข่าว Jane’s Intelligence Review จีนเป็นแหล่งสนับสนุนด้านอาวุธให้กับกองทัพว้า ที่มา Irrawaddy/Wikipedia
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=17055 .