ภาพโดย สำนักข่าว Panglong นายจายทุนหย่าน ส.ส.จากเขตเลือกตั้งที่ 2 เมืองจ้อกเม ทางเหนือรัฐฉานออกมาเปิดเผยในสภา เผยขณะนี้เด็กหนุ่มจากหลายหมู่บ้านในเมืองจ้อกเม ต่างทิ้งบ้านเกิด หนีไปอยู่ประเทศจีนและไทยเป็นจำนวนมาก แทบไม่เหลือชายหนุ่มให้เห็นในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ รวมไปถึงการเกณฑ์ทหารใหม่ที่รุนแรงจากกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ก็เป็นสาเหตุให้เด็กหนุ่มต่างหนีไปอยู่ประเทศอื่น มีรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ถึงแม้การสู้รบในพื้นที่เมืองจ้อกเมจะไม่ค่อยเกิดขึ้นเหมือนช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังปะหล่อง TNLA เนื่องจากกองทัพพม่าเพิ่มกำลังทหารไปในรัฐคะฉิ่นแทน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาความขัดแย้งตึงเครียดอยู่ขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามคนหนุ่มสาวในพื้นที่โดยเฉพาะตามหมู่บ้านที่หลายกลุ่มติดอาวุธเคลื่อนไหวอยู่ กลับพบว่าเด็กหนุ่มเกือบทั้งหมู่บ้านต่างทยอยออกจากพื้นที่ไปหางานทำในเมืองจีนและไทย เหลือแต่ชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คนแก่ และเด็ก เช่นที่หมู่บ้านต้อส่างและอีก 5 หมู่บ้านในเขคเมืองจ้อกเม นายจายทุนหย่านเปิดเผยว่า เหตุชายหนุ่มหนีออกจากพื้นที่มีอยู่ด้วยกันสองสาเหตุคือ การเกณฑ์ทหารใหม่และการเกิดสงครามทำให้การทำมาหาเลี้ยงชีพลำบาก นอกจากนี้ในเขตพื้นที่เหล่านี้ไม่มีกฎหมายคุ้มครองชาวบ้าน หากมีกลุ่มติดอาวุธกลุ่มไหนเข้ามาในหมู่บ้าน กลุ่มนั้นก็มักมีอำนาจขู่เข็ญชาวบ้าน นายจายทุนหย่านยังเปิดเผยว่า แม้ไม่มีสงครามเกิดขึ้นบ่อยครั้งเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังพบการประทะกันระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังปะหล่อง TNLA และระหว่างทหารไทใหญ่ RCSS/SSA และทหารปะหล่อง TNLA อยู่เป็นระยะๆ สงครามในเมืองจ้อกเมนั้น ทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนก นายจายทุนหย่านกล่าว ในเขตเมืองจ้อกเม มีหลายกลุ่มติดอาวุธอย่างทหารปะหล่อง TNLA ทหารไทใหญ่ SSPP/SSA และทหารไทใหญ่ RCSS/SSA ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึกเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ขณะที่อีกด้านหนึ่งในเมืองทานาย รัฐคะฉิ่น หลังเลยกำหนดเส้นตายวันที่ 15 มิ.ย.ที่กองทัพพม่าได้ออกคำสั่งให้ประชาชนออกจากพื้นที่เหมืองทองและเหมืองอำพันในพื้นที่ ซึ่งเป็นเหมืองที่อยู่ในความควบคุมดูแลของกองพันที่ 14 กองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ล่าสุดมีรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายได้รบกันใกล้บริเวณเหมืองแล้วเมื่อวานนี้
(16 มิ.ย.60) แหล่งข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่ไม่มีเงินที่จะใช้เดินทางไปหลบภัยในตัวเมืองทานาย ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ตามเหมือง ซึ่งคนเหล่านี้อาจได้รับอันตรายจากสงครามได้ นอกจากนี้แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่า ทหารคะฉิ่น KIA อาจต้านทานกองทัพพม่าได้ไม่นาน โดยทหารคะฉิ่น KIA ระบุว่า จะสู้กับกองทัพพม่าเพื่อปกป้องเหมืองในพื้นที่เท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้กองทัพพม่ายังคงส่งทหารเข้ามาในพื้นที่เมืองทานายเป็นจำนวนมาก โดยทางทหารคะฉิ่น KIA คาดไว้อยู่แล้วว่า กองทัพพม่านั้นจะเข้าโจมตีในพื้นที่ซึ่งมีเหมืองตั้งอยู่ เช่นทั้งในเมืองทนายที่มีทั้งเหมืองทองและเหมืองอำพัน และที่เมืองผากั้น ซึ่งมีเหมืองหยกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ทางด้าน KIA เปิดเผยว่า พลเรือนที่อยู่ในเขตเหมืองไม่ใช่เฉพาะคนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีแรงงานจากทางภาคกลางของพม่าอย่างเขตมะเกว รัฐอาระกันและรัฐฉานเป็นต้นที่เข้ามาทำงาน นอกจากนี้ทาง KIA ระบุอีกว่า สถานการณ์จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ประชาชนจะไม่เดินทางกลับมาในพื้นที่ ขณะที่สงครามที่เกิดขึ้นจะกระทบทั้งต่อ KIA และประชาชนที่ต้องพึ่งเหมืองทองและเหมืองอำพันในการเลี้ยงชีพ โดยในไม่กี่วันที่ผ่านมา ชุมชนที่อยู่รอบเหมืองถูกทิ้งกลายเป็นเมืองร้าง เนื่องจากชาวบ้านกลัวสงคราม หลังกองทัพพม่าได้แจกใบปลิวให้ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ KIA นั้นเป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อีกกลุ่มที่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ Panglong/DVB แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก ….ที่มา : สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=16957 .