หญิงสาวเกือบ 200 คน ตบเท้าเข้าร่วมเป็นทหารใหม่กองทัพเมืองลา เขตปกครองตนเองในรัฐฉาน ….ที่มา : สำนักข่าวชายขอบ

กองกำลังเมืองลา หรือ กองกำลังสัมพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Alliance Army -NDAA) ซึ่งควบคุมพื้นที่เขตปกครองตนเองเมืองลา หรือเขตปกครองพิเศษที่ 4 ทางภาคตะวันออกของรัฐฉานได้ออกมาเปิดเผยว่า ในปีนี้ มีทหารใหม่เป็นหญิงสาวจำนวนทั้งสิ้น 171 คน สมัครเข้าร่วมกับกองกำลังเมืองลา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการอบรมความรู้ด้านการทหาร การเมือง การช่วยเหลือรักษาพยาบาล เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ และการติดต่อประสานงานกับประชาชน เป็นต้น เจ้าหน้าที่ในกองกำลังเมืองลาเปิดเผยว่า การอบรมเรื่องการทหารและการเมืองให้กับทหารใหม่นั้นจะใช้เวลาตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 3 เดือน เพื่อส่งเสริมความสามารถให้กับทหารหญิง มีการฝึกอบรมทั้งในด้านการปกป้องประเทศและการอบรมให้ทหารใหม่มีใจรักชาติเพิ่มมากขึ้นด้วย

โดยครูฝึกก็เป็นทหารที่มีประสบการณ์ในกองกำลังเมืองลา ทั้งนี้ หญิงสาวที่สมัครเข้าร่วมกองทัพเมืองลานั้นส่วนใหญ่เดินทางมาจากเมืองสือลือ เมืองน่ำปาน ในเขตเมืองลา มีอายุระหว่าง 18 – 25 ปี โดยในทุกปีจะมีหญิงสาวเข้าร่วมกับกองทัพและฝึกอบรมไปแล้วหลายรุ่น กองทัพเมืองลานั้นได้ลงนามหยุดยิงกับกองทัพพม่ามาตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 เดือนมิถุนายนปี 2532 โดยในปี 2554 ในยุคของรัฐบาลเต็งเส่งนั้น กองทัพเมืองลาได้ลงนามหยุดยิงระดับรัฐกับรัฐบาลพม่า กองทัพเมืองลานั้นเป็นพันธมิตรกับหลายกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ทางเหนือของรัฐฉาน ที่กองทัพว้าเป็นผู้นำกลุ่ม เมื่อเร็ว ๆ นี้กลุ่มติดอาวุธทางเหนือที่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิง ได้พยายามหาทางเจรจาทางการเมืองกับรัฐบาลพม่าโดยใช้วิธีการทางเลือกอื่น ไม่ดำเนินตามนโยบายการลงนามหยุดยิงแห่งชาติ (NCA) ที่ทางรัฐบาลพม่าและกองทัพพม่ากำหนดไว้ จึงทำให้กระบวนการสร้างสันติภาพในพม่า โดยเฉพาะกับฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธที่ยังไม่ลงนามหยุดยิงยังคงชะงักงัน อีกด้านหนึ่ง นางซิปโปราห์ เส่ง อดีตรองประธาน KNU ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพและความพยายามสร้างระบอบสหพันธรัฐในพม่า โดยมองว่า รัฐบาล NLD ล้มเหลวที่จะให้ทุกกลุ่มชาติพันธุ์เข้าร่วม รวมถึงล้มเหลวที่จะนำเอาความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากพรรคการเมืองชาติพันธุ์ นอกจากนี้ยังวิจารณ์ว่า ข้อตกลงที่ได้ในการประชุมสัญญาป๋างโหลงครั้งที่ 2 นั้นดูเหมือนตกอยู่ภายใต้การถูกกดดันมากกว่าการใช้วิธีการเจรจา ผู้นำหญิงกะเหรี่ยงรายนี้ยังแนะไปยังกลุ่มติดอาวุธที่ลงนามหยุดยิงแล้วด้วยว่า ควรกลับมาพิจารณากระบวนการสันติภาพเพราะดูเหมือนไม่มีความเป็นธรรมกับฝ่ายชาติพันธุ์ ที่มา Panglong/DVB แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ

ขอบคุณแหล่งข่าวจาก : สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=16913 .

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *