ผู้ร้องเรียน 2 บริษัทนี้ ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า บ.มะนังการช่าง ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.สตูล เป็นบริษัทที่รับเหมาการขุดเจาะวางท่อ ได้ทำสัญญาช่วงกับ บริษัทหนึ่งที่ได้รับการประมูลงาน จาก บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า)ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการใหญ่ จะต้องใช้อุปกรณ์การขุดเจาะที่ได้มาตรฐานในการดำเนินการก่อสร้าง และได้รับงานมาตามสัญญาในวงเงินกว่า 7 ล้านบาท ซึ่ง บ.มะนังการช่าง ได้รับเงินแอดวานซ์ จำนวน 3 แสนบาท จากบริษัทผู้ว่าจ้าง และต่อมาได้เริ่มทำการขุดเจาะตามสัญญา และ ได้เบิกเงินจากบริษัทผู้ว่าจ้าง จำนวน 2 ล้านเศษ โดย บ.มะนังการช่าง ถูกหักเงินแอดวานซ์ไป 3 แสนบาท จึงได้รับเงินเพียงจำนวน 1 ล้านเศษ
ต่อมา บ.มะนังการช่าง ซึ่งมีปัญหาในเรื่องอุปกรณ์ในการขุดเจาะ จึงได้จ้างบริษัท ทองเเสนขัน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้เข้ามาทำสัญญารับงานช่วงต่อจาก บ.มะนังการช่าง อีกบริษัทนึง ซึ่ง บ.ทองแสนขัน จำกัด เป็นบริษัทใหญ่ระดับประเทศ ที่มีหน่วยงานรัฐและเอกชน รู้จักเป็นอย่างดี เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการทำงาน ทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ที่สมบูรณ์ มีความทันสมัย และ บ.ทองแสนขัน จำกัด จึงได้เริ่มสั่งอุปกรณ์ ท่อและอื่นๆที่เกี่ยวกับการก่อสร้างงานในครั้งนี้ ตลอดจนแรงงาน มาดำเนินงานจนงานลุล่วงไป 90% จึงได้ทำหนังสือขอเบิกเงินจาก บ.มะนังการช่าง จำกัด และให้วางบิลไว้ แต่ไม่ได้จ่ายเงินตามบิลที่วาง
เนื่องจากบริษัทที่รับงานประมูลฯมาจาก บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า)มานั้น ก็ไม่ได้จ่ายเงินให้กับ บ.มะนังการช่าง ซึ่งทั้งสองบริษัท ได้ถูก บริษัทร้านค้าต่าง ๆ ที่ ไปเครดิต วัสดุอุปกรณ์ในการทำงานครั้งนี้มานับล้านบาท ได้มีหนังสือทวงถามมา แต่ก็ยังไม่มีการชำระค่าใช้จ่ายให้กับร้านค้าในจำนวนเงินทั้งหมด แต่บริษัททั้งสองจะชำระให้กับร้านค้าเป็นงวดๆตามกำลังที่มี
ต่อมาทั้งสองบริษัทได้มีหนังสือไปยัง บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า)เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หรือ เป็นสื่อกลางทวงถาม บ.ที่ได้รับการประมูลฯให้มาชำระค่าจ้างกับทั้งสองบริษัท ที่ยังเบิกเงินไม่ได้
ทาง บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า)จึงได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า “จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากทั้งสองบริษัทไม่ได้เป็นคู่สัญญากับ ทีโอที จึงไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว และยังเตือนมาว่า ห้ามทั้งสองบริษัท กระทำการใดๆกับทรัพย์สินของทาง บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า)ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญา “แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ตั้งแต่เริ่มขุด จนวางระบบ มาจนเกือบเสร็จนั้น เป็นเงินของ บ.มะนังการช่าง และ บ.ทองแสนขัน ทั้งสิ้น และจะเป็นของ บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า)ได้อย่างไร เพราะทั้งสองบริษัทก็ไม่ได้มีสัญญากับ บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า) เช่นกัน เพียงแค่ต้องการให้ บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า) พูดคุย กับผู้รับการประมูลฯงานของ บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า) เท่านั้น และทั้งสองบริษัทมีการปรึกษาหารือกันและไปแจ้งความกับ สภ.ละงู
จ.สตูล พร้อมทำหนังสือคัดค้านการส่งมอบงานซึ่งมีข้อความว่า “ขอให้ บ.เคเบิลใหญ่ของเมืองไทย(สีฟ้า) ระงับการรับมอบงานของ บริษัทผู้ได้รับการประมูลดังกล่าว ซึ่งบริษัทที่รับการประมูลมานั้นยังติดค้างเงินจ้างช่วงกับทั้งสองบริษัทอยู่ กว่า4ล้านบาทและที่สำคัญผู้ได้รับงานประมูลฯไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำงานตั้งแต่เริ่ม ไม่ว่าจะเป็นสเป๊กการทำงานทั้งหมด หรือแม้กระทั่ง วิศวกรควบคุมการก่อสร้างก็เป็นของ บริษัท มะนังการช่าง และ บริษัท ทองแสนขัน ทำให้การส่งมอบงานนั้นไม่เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนจึงจะถูกต้องแต่จนปัจจุบันทั้งสองบริษัทยังไม่ได้มีการส่งมอบงานให้กับใครเลย บ.ทองแสนขัน ได้บอกกับสื่อมวลชนส่วนกลางอีกว่าตนทำงานมากับหลายๆบริษัทใหญ่ก็ไม่เคยมีปัญหาดังกล่าว ตนเคยได้เป็นผู้รับการประมูลฯงานประมูลฯมามากมายและทุกหน่วยงานจะรู้จักบริษัทตนดี บ.ทองแสนขัน และมะนังการช่างทั้งสองบริษัทดังกล่าวได้มาร้องเรียนสื่อมวลชนส่วนกลาง ว่าการส่งมอบงานชิ้นสำคัญของประเทศนั้นบริษัทที่ได้รับการประมูลฯส่งมอบงานกับทีโอทีแล้วได้เป็นไปตามระเบียบกฏหมายหรือไม่
ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งเป็นบริเวณหน้างานที่ขุดเจาะ ก็พบว่างานดังกล่าวเป็นงานยากมาก ต้องใช้อุปกรณ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างมาก ซึ่งการวางสายเคเบิลข้ามระหว่างประเทศนั้นจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างชาติมารับงานเป็นช่วงๆ ของความถนัดแต่ละบริษัท ซึ่งการขุดเจาะบริเวณนี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์วางสายเคเบิลที่สำคัญของภาคใต้ครั้งแรก
โดยในเดือนนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมคณะ จะเดินทางมาเปิด สถานีเคเบิลใต้น้ำที่นี่ด้วย และหากเรื่องนี้ถึงหู ท่านนายรัฐมนตรี ว่ามีการทำงานซับซ้อนและเกิดปัญหา อะไรจะเกิดขึ้น ทางทีมข่าวได้รับข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว และจะขุดคุ้ยหาความจริงมาแฉให้ทราบกันในเร็วๆนี้
ภาพ/ข่าว ประพัฒน์ บวรภโรทัย รายงาน
แหล่งข่าวจาก – พญาต่อ
ทีมข่าวแม่สายนิวส์ออนไลน์ ////// รายงาน ////////
