การประชุมสัญญาป๋างโหลงศตวรรษที่ 21 ครั้งที่ 2 เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2560 ตัวแทนจากหลายกลุ่มติดอาวุชาติพันธุ์ได้เข้าร่วมการประชุม มีรายงานว่า กองกำลังปะหล่อง TNLA กองกำลังโกก้าง MNDAA และกองทัพอาระกัน AA ได้สร้างความประหลาดใจโดยการเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยได้รับเชิญจากรัฐบาล NLD มาเข้าร่วมในฐานะแขกพิเศษ ด้านสื่อพม่ารายงานว่า จีนคือผู้อยู่เบื้องหลังที่ผลักดันให้ทั้ง 3 กลุ่มเข้าร่วมประชุมถึงแม้อีกด้านหนึ่งจะยังคงจับปืนต่อสู้กับกองทัพพม่า ที่ในระยะหลังนี้จีนเข้ามามีบทบาทในกระบวนการสันติภาพในพม่ามากขึ้น ขณะที่การประชุมจะมีไปจนถึงวันที่ 29 พ.ค.2560 กองกำลังปะหล่อง TNLA ออกแถลงการณ์ว่า ได้รับเชิญในฐานะแขกพิเศษจากรัฐบาล NLD เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทั้ง 3 กลุ่มจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมในการถกปัญหาต่างๆ หรือแม้แต่ออกเสียงเห็นชอบมติต่างๆ โดยจะทำหน้าที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์เท่านั้น โดยมีเพียงกลุ่มติดอาวุธ 8 กลุ่มที่ได้ลงนามหยุดยิงเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าว การเข้าร่วมประชุมของกลุ่มติดอาวุธทั้ง 3 กลุ่ม
ได้สร้างความแปลกใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้กองทัพพม่าเคยประกาศกร้าวว่า หากทั้ง 3 กลุ่มจะเข้าร่วมประชุมจะต้องวางอาวุธเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีการคาดเดาว่า จีนน่าจะอยู่เบื้องหลังที่ผลักดันให้ 3 กลุ่มเข้าร่วมประชุม เพราะก่อนหน้าที่จะจัดประชุมไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการต่างประเทศของจีนได้พบกับนางซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและพลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า ด้านนางซูจี ขึ้นกล่าวในที่ประชุมว่า รัฐบาล NLD นั้นจะไม่บังคับหรือกดดันให้กลุ่มติดอาวุธร่วมสร้างสันติภาพในประเทศ แต่จะดำเนินการผ่านทางรูปแบบการเจรจาอย่างเปิดเผย โดยเรียกร้องทุกกลุ่มเข้ามาร่วมเจรจา หันมาบรรลุข้อตกลงร่วมกันในประเด็นที่ต่างฝ่ายเห็นต่าง อีกทั้งยอมรับว่า การสร้างสันติภาพในพม่าเป็นหนทางที่ยังอีกยาวไกล แต่ก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเอาชนะอุปสรรค์และความท้าทายผ่านความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจกันและด้วยจิตวิญญาณของสัญญาป๋างโหลง นางซูจี ยังกล่าวเพิ่มเติมในการประชุมวันแรกว่า เป้าหมายต่อจากนี้คือการสร้างประเทศในระบอบสหพันธรัฐประชาธิปไตย เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับว่า การแก้ปัญหาสงครามการเมืองในประเทศที่มีมายาวนานคือระบบสหพันธรัฐ ขณะทีีอีกด้านหนึ่ง พลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าขึ้นกล่าว โดยมีข้อความบางส่วนโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่ยังไม่ยอมลงนามหยุดยิงว่าเป็นพวกที่ไม่ต้องการระบอบสหพันธรัฐและสันติภาพ รวมทั้งต้องการจะออกจากสหภาพพม่า นอกจากนี้ยังเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจและต่อต้านสิ่งที่ประชาชนต้องการ ด้านนักวิเคราะห์ชาวพม่าอย่างนายหม่องหม่องโซ มองว่า การประชุมสัญญาป๋างโหลงครั้งที่ 2 ไม่มีความก้าวหน้ามากนัก สิ่งที่แตกต่างคือมีกลุ่มโกก้าง ปะหล่อง และกองทัพอาระกันเข้าร่วมเท่านั้น เพราะรัฐบาล NLD และกองทัพพม่ายังคงดำเนินตามนโยบายข้อตกลงหยุดยิงแห่งชาติ (NCA) ที่จะเจรจาพูดคุยทางการเมืองกับกลุ่มที่ลงนามหยุดยิงเท่านั้น จะให้กระบวนการสันติภาพในพม่าก้าวหน้าในการประชุมครั้งต่อไป ทุกกลุ่มชาติพันธุ์จะต้องเข้าร่วมเจรจาทางการเมือง แต่ชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้ลงนามหยุดยิง จึงเป็นเรื่องที่ยากที่ทั้งหมดจะเข้าร่วมเจรจาทางการเมืองได้ ในที่ประชุมสัญญาป๋างโหลงนี้ ทางกลุ่มปะหล่อง TNLA ยังได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า พร้อมที่จะเจรจากับทางทหารไทใหญ่ RCSS/SSA ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึก ต่อกรณีที่ทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันในหลายพื้นที่ทางเหนือของรัฐฉาน อย่างไรก็ตาม ทาง TNLA อ้างว่า ทาง RCSS/SSA ยังไม่พร้อมที่จะเจรจาในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าคืนใส ที่ปรึกษาของ RCSS/SSA เปิดเผยเช่นกันว่า ยังไม่มีแผนที่ทั้งสองฝ่ายจะพบเจรจาในเร็วๆนี้ แต่ก็หวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อแก้ไขความไม่เข้าใจกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ด้านชาวบ้านรายหนึ่งจากเมืองน้ำคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งทั้งสองฝ่ายสู้รบกันเปิดเผยว่า สงครามระหว่างปะหล่องและไทใหญ่ยังทำให้ชุมชนที่มีทั้งชาวปะหล่องและชาวไทใหญ่อาศัยอยู่บาดหมางและต่างก็สูญเสียความเชื่อใจต่อกันไปด้วย และนับวันสถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ที่มา DVB/Irrawaddy/Tai freedom แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=16810 .
