วันที่ 10 พ.ค. เมื่อเวลา 04.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.อธิรัตน์ สุริยะฉาย รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมเพื่อร่วมชันสูตรศพของ ด.ต.สมพงษ์ พิศภิรมย์ ผบ.หมู่งาน ป.อายุ 49 ปี ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม หลังจากถูกวัยรุ่นขี่รถจยย. พุ่งเข้าชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งมารักษาแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากการถูกพุ่งชน ทำให้หัวใจล้มเหลวจากการเสียเลือดมากและตับแตก

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค. พ.ต.อ.ทวี พรมมาลี ผกก.สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดจับเด็กวัยรุ่นที่ชอบมามั่วสุมแข่งรถ บริเวณถนนพุทธมณฑล สาย ก. ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีการวางแผนตั้งด่านตรวจ หากมีการหลบหนี จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นายดักรออยู่ด้านหน้าห่างจากด่าน 80 เมตร

ขณะที่กำลังตั้งด่านตรวจอยู่นั้น เวลา 03.30 น. มีเด็กวัยรุ่น ขี่รถจยย. ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับขี่มาตามลำพัง เมื่อเห็นด่านตรวจไม่ยอมหยุดหรือเบาเครื่อง แต่เร่งเครื่องแหกด่านหลบหนี จึงวิทยุให้ตำรวจที่ดักรอยู่ด้านหน้าสกัดจับ ปรากฏว่า ด.ต.สมพงษ์ ได้ออกมายืนขวางถนน ส่องไฟ เด็กวัยรุ่นพยายามหักหลบแต่ไม่พ้น พุ่งเข้าชนจนร่าง ของ ด.ต.สมพงษ์ นอนแน่นิ่งไปกับพื้นถนน มีเลือดออกมากอากาสาหัส นำส่ง รพ. และเสียชีวิตต่อมา

ส่วนเด็กวัยรุ่นที่พุ่งชนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แต่มาพักอาศัยอยู่ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยนายเอ ให้การเบื้องต้นว่าที่ขี่รถแหกด่านเพราะตกใจกลัว ไม่มีใบขับขี่ จยย.ไม่ติดทะเบียน เพียงแค่จะมาหาเพื่อนที่พุทธมณฑลเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมาเจอด่านตรวจ

จากนั้นในช่วงบ่ายเดียวกัน พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้สั่งการให้ต้นสังกัด รายงานตามขั้นตอนเสนอความดีงามให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนวัยรุ่น อายุ 16 ปี ตำรวจได้ควบคุมไปสอบสวนที่โรงพักในเบื้องต้น และเผยว่าที่ขี่แหกด่านเพราะตกใจกลัวโดนจับ และกลัวผู้ปกครองว่า ทั้งนี้ สภ.พุทธมณฑลได้นำตัวส่งสถานพินิจกำแพงแสนจังหวัดนครปฐม หากสอบปากคำผู้เป็นบิดามารดาของบุตรแล้วถ้าหากปล่อยหรือยุยงให้กระทำผิดให้นำรถออกมาขับขี่บนท้องถน หากรู้และไม่ห้ามปราม จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีด้วย

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก   ข่าวสด    https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_342358