มุน แจอิน ประกาศชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หลังเอ็กซิทโพลชี้คะแนนนำห่าง ขณะที่คู่แข่งประกาศยอมรับความพ่ายแพ้
การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่จัดขึ้นวานนี้ หลังจากที่เกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตทำให้นางสาวปาร์ค กึนเฮ ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ตามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกฎหมายของเกาหลีใต้ระบุให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีมีเพียงรอบเดียว ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากที่สุดถือเป็นผู้ชนะ โดยไม่จำเป็นต้องเกินครึ่งหนึ่ง
ผลสำรวจเอ็กซิทโพลที่จัดทำร่วมกัน ระหว่างสถานีโทรทัศน์เคบีเอส เอ็มบีซี และเอสบีเอส ของเกาหลีใต้ ระบุว่า นายมุน แจอิน อดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคสายกลาง-ซ้าย ได้คะแนนเสียงอยู่ที่ 41.4%
ทิ้งห่าง นายฮง จุนพโย คู่แข่งจากพรรคเสรีนิยมเกาหลีใต้ ที่เป็นพรรครัฐบาลรักษาการในขณะนี้ โดยได้คะแนนไป 23.3% ตามมาด้วยอันดับ 3 คือนายอัน ชอลซู อีกหนึ่งผู้สมัครจากพรรคประชาชน วัย 55 ปี ที่ได้คะแนนไป 21.8%
ไม่นานหลังจากที่มีการประกาศเอ็กซิทโพลที่นายมุนคะแนนทิ้งห่าง นายอัน โชลซู ได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ โดยนายอัน โชลชู ได้กล่าวว่า เคารพการตัดสินใจของประชาชน และยอมรับไม่สามารถตอบสนองความต้องการของชาวเกาหลีใต้ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงได้
ด้านนายฮง จุนฮโย จากฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้ออกมาแถลงยอมรับความพ่ายแพ้เช่นกัน โดยระบุว่า ยอมรับผลและพอใจในคะแนนเสียง โดยขอขอบคุณประชาชน และจะขอสร้างพรรคขึ้นมาใหม่หลังจากนี้
ขณะที่ นายมุน แจอิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้ ได้ประกาศชัยชนะ เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย โดย นายมุน กล่าวว่า ตนจะเป็นประธานาธิบดีที่ทำให้ประเทศและชาวเกาหลีใต้ภูมิใจ
สำหรับชัยชนะของนาย มุน แจอิน ซึ่งมีแนวคิดฝ่ายซ้าย ถือเป็นการปิดฉากการบริหารประเทศกว่า 10 ปี ของพรรคอนุรักษ์นิยม และปูทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อเกาหลีเหนือครั้งใหญ่ เนื่องจากนายมุน ต้องการยกระดับการสื่อสารกับเกาหลีเหนือ ต่างกับนางปาร์ค กึนเฮ โดยสิ้นเชิง
คณะกรรมการการเลือกตั้งของเกาหลีใต้คาดว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่า 80% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2540 ซึ่งมีผู้มาใช้สิทธิ 80.7% โดยการออกมาใช้สิทธิครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการของชาวเกาหลีใต้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการผลักดันการเมืองที่ปราศจากการทุจริตคอรัปชั่น
มุน แจอิน เป็นลูกชายของผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือ และเคยถูกจำคุกในสมัยเป็นนักศึกษาช่วงทศวรรษ 1970 จากการนำการประท้วงต่อต้านนายปาร์ค ชุงฮี ผู้นำทหารที่ปกครองประเทศ และเป็นบิดาของนางสาวปาร์ค
ต่อมา เขาได้เข้าร่วมกองกำลังพิเศษของเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน
นายมุน จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี เคยแพ้การเลือกตั้งให้แก่นางปาร์ค ในปี 2555 หลังมีนโยบายที่ประนีประนอมมากขึ้นกับเกาหลีเหนือ โดยเขาระบุว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่สามารถผลักดันประเทศให้เดินหน้าต่อไป หลังจากที่เผชิญกับเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ในสมัยของนางสาวปาร์ค
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก สนุีกนิวส์ http://news.sanook.com/2214946/
