..นาทีข่าวด่วน….ตร.ปส.จับบยกแก๊งสมุน โจ หรือ ต้น ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่……

…..นาทีข่าวด่วน….ตร.ปส.จับบยกแก๊งสมุน โจ หรือ ต้น ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่……

เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ 2 พ.ค 60 พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล พ.ต.อ.อานันทพงศ์ เชิดเกียรติกุล รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.พิชัย ธนาอัศวพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.พิชญุตม์ เกียรติกิตติคุณ รอง ผกก.1 พ.ต.ท.ธีร์ทัศน์ ปานโต สว.กก.1ฯ พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล สว.กก.1พ.ต.ต.มนตรี เอี่ยมรัมย์ สว.กก.3 บก.ปส.4ปฏิบัติหน้าที่ สว.กก.1 บก.ปส.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปส.4 สนธิกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี สภ.โคกขาม เจ้าพนักงาน ปปส.ภาค 7 ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 6 คน นายจักกรี หรือป้อง อุ่นสำราญ อายุ 31ปีอยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 3 ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จว.ตาก นายวันเฉลิม หรือต้น นาคภักดี อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 77 ซอยคู้บอน 21 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม.นายเสรินทร์ หรือเส ยาเพ็ชรน้อย อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.05 ต.บางงาม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี นายทันณกร หรือโห้ สุ่มทอง อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 139 ม.7 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จว.ชัยนาท นายศานิต หรือตึก อิสสอาด อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 75 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จว.สุพรรณบุรี น.ส.ชุติมา หรือปลื้ม เทกอง อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 132/2 ม.3 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จว.สุพรรณบุรีพร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าจำนวนทั้งหมด 200 มัดเศษรวมประมาณ 401,531เเม็ดโทรศัพท์มือจำนวน 8 เครื่องรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-3395 สุราษฎร์ธานี รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กฉ 4113 กรุงเทพฯรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อัลติส สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 4 กข 2261 กรุงเทพ อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ CZ ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอกพร้อมซองกระสุนปืนจำนวน 1 ซองไม่มีหมายเลขทะเบียนปืน หมายเลขประจำตัวปืน B079013 เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 9 นัดพร้อมทำการตรวจยึดทรัพย์สิน รถยนต์รวมทั้งหมด 4 คันอายัดเงินในบัญชีธนาคารรวมมูลค่าประมาณ 4 ล้าน 5 แสนบาท

พล.ต.ต.ดุษฎี กล่าวว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดของนายโจ หรือ ต้นซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งทางกก.1บก.ปส.4 (นปส.กาญจนบุรี)เคยติดต่อล่อซื้อยาเสพติดกับนายโจมาแล้ว 2 ครั้งแต่ก็ไม่สามารถจับกุมนายโจและผู้กี่ยวข้องได้เนื่องจากนายโจหรือต้นไม่ยอมส่งยาเสพติดให้ต่อมานายโจได้โทรศัพท์ติดต่อหาสายลับว่ามียาบ้าจำนวนมากพร้อมที่จะขายให้จึงให้สายลับติดต่อล่อซื้อกับนายโจจำนวน 200 มัด (รวม 400,000 เม็ด)ในราคามัดละ 60,000 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,000,000 บาท(สิบสองล้านบาท)โดยนัดส่งของที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาศาลายา ต.บางเตย อ.สามพราน จว.นครปฐม จึงให้สายลับและเจ้าหน้าที่อำพรางเดินทางไปพบ นายจักกรีกับนายวันเฉลิมได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-3395 สุราษฎร์ธานีมาจอดบริเวณลานจอดรถยนต์และเดินเข้ามาพบสายลับและเจ้าหน้าที่อำพรางภายในร้านอาหาร KFC ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็ลทรัล และดูเงิน นายโจหรือต้นได้ให้สายลับ-เจ้าหน้าที่อำพรางไปเอายาบ้าที่ซุกซ่อนไว้บริเวณคอสะพานข้ามทางรถไฟริมถนนพระราม 2 ขาออก กม.ที่ 81+100 ต.วันดาว อ.ปากท่อ จว.ราชบุรี จึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ทราบและให้สะกดรอยติดตามรถต้องสงสัยซึ่งจอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามกับจุดที่นำยาบ้ามาวางไว้เป็นรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กฉ- 4133 กำแพงเพชรและรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อัลติส สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 4 กข 2261 กรุงเทพทั้ง 2 คันขับเข้าไปจอดบริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันบางจาก ริมถนนพระราม 2 เลขที่ 59 ม.5 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จว.สมุทรสงครามเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงแสดงตัวขอตรวจค้นรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กฉ- 4133 กำแพงเพชร ของนายเสรินทร์พบโทรศัพท์มือถืออยู่บนเบาะด้านหน้าฝั่งคนขับพบมีความเชื่อมโยงกับหมายเลขโทรศัพท์ของสายลับ ส่วนรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบอร์นหมายเลขทะเบียน กฉ 4113 กรุงเทพของนายทันณกรตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นและเครื่อกระสุนปืนซุกซ่อนไว้ภายในกระปุกเกียร์จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องไว้ทั้งหมด

จากนั้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกชุดแสดงตัวเข้าควบคุมตัวนายจักกรีฯและนายวันเฉลิมที่มารับเงินค่ายาบ้าพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำบันทึกตรวจยึดยาบ้าของกลางมาสอบขยายผลต่อพร้อมนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 59 หมู่ 5 ต.บางงาม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรีซึ่งเป็นบ้านพักของนายเสรินทร์พบของกลางยาบ้าจำนวน 8 ถุงรวมประมาณ 1,531เม็ดซุกซ่อนอยู่ใต้เสื่อน้ำมันภายในบ้านหลังดังกล่าว
พ.ต.อ.ยุทธนา กล่าวว่าจากการสอบสวนนายเสรินทร์ให้การรับสารภาพว่านายธีร์รัชช์ หรือเอก เป็นนายหน้ามาติดต่อให้ตนกับนายทันณกรและนายศานิตบอกว่ามีนายโจ ว่าจ้างให้ไปช่วยขนยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยให้นำยาบ้าจำนวน 200 มัดรวมประมาณ 400,00 เม็ดและตกลงจ่ายค่าจ้างให้ในราคามัดละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 600,000 บาทนำมาแบ่งกันตนกับพวกจะได้ค่าจ้างคนละ 100,000 บาท ส่วนนาย ธีร์รัชช์ ได้ค่าจ้าง 300,000 บาทตนกับพวกจึงได้ร่วมกันนำรถยนต์ 2 คันไปรับยาบ้าโดยมีลูกน้องของนายโจนำมาวางไว้ที่บริเวณริมถนนหลักกม.ที่ 85 จว.พระนครศรีอยุธยาเมื่อรับยาบ้าแล้วนายศานิต และน.ส.ชุติมาได้ขับรถนำทางดูด่านตำรวจ ส่วนตนและนายทันณกรได้ขนยาบ้าใส่รถยนต์กะบะนำไปวางส่งให้กับลูกค้าที่ จว.เพชรบุรีตามที่นัดหมายแล้วตนเองกับพวกได้เฝ้าดูอยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อลูกค้าเข้ามารับยาบ้าเสร็จแล้วจึงได้ขับรถออกไปจอดที่ปั๊มน้ำมันก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมทั้งหมดดังกล่าว
จากการสอบสวนขยายผลตรวจสอบประวัติอาชญากรรมทั้ง 6 คนพบว่านายจักกรี หรือป้อง อุ่นสำราญเป็นบุลคลตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสงที่ 396/2559 ลง 20 ธ.ค.2559 ซึ่งผู้ต้องหา”กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ศาลฏีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแต่จำเลยหลบหนี” เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนายจักกรี ให้ทราบว่า”กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ศาลฏีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแต่จำเลยหลบหนี”

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1( เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ”(ผู้ต้องหาที่ 1-6)และแจ้งข้อกล่าวหากับ ผู้ต้องหาที่ 5 เพิ่มเติมว่า“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในทางไปในเมืองหมู่บ้านหรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นและไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว”และแจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ 1 ให้ทราบเพิ่มเติมว่า”กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ศาลฏีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแต่จำเลยหลบหนี” (ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 396/2559 ลง 20 ธ.ค.2559 )และแจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ 3 เพิ่มเติมว่า“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ”

นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.4 บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายวิวรรธน์ แพ่งสุภา ผู้อำนวยการ
คมชัด AEC TV Online
คมชัด AEC TV Online2

 

แหล่งข่าวจาก  คมชัด   AEC  TV   ออนไลน์   http://aec-tv-online.com/blog/2017/05/02/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%9B%E0%B8%AA-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A2/