เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำกลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนกับบริษัท อีเกิ้ล เกตส์ กรุ๊ป จำกัด ประมาณ 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ให้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และนำเงินมาคืนผู้เสียหาย ซึ่งมีจำนวนนับพันล้านบาท โดยมีตัวแทนพล.ต.ท.ฐิติราช เป็นผู้รับหนังสือ
สำหรับบริษัทดังกล่าวมีนักลงทุนชาว สหรัฐอเมริกา อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัท และมีคนไทยชื่อว่า “อ.กบ” เป็นผู้ชักชวนให้ผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนในลักษณะซื้อพอร์ตจากบริษัท ในอัตราขั้นต่ำ 1,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้บริษัทนำไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา และผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลตอบแทนในอัตราที่สูง อาทิเช่น ลงทุน 1,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ใน 3 เดือนแรกจะได้รับเงินปันผล 3% ในเดือนที่ 4-6 จะได้รับเงินปันผล 6% และตั้งแต่ 7 เดือนขึ้นไปจะได้รับเงินปันผลสูงถึง 9% ทำให้มีผู้หลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
โดยเริ่มเปิดให้มีการลงทุนช่วงแรกในเดือน พ.ค.2559 ซึ่งในช่วงนี้ผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลคืนตามที่บริษัทนำเสนอ และในเดือนส.ค. ได้มีการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งมีผู้ร่วมงานนับพันคน ภายในงานมีคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดังหลายคน เป็นต้น นอกจากนี้การเปิดตัวนักลงทุนเจ้าของบริษัท จากสหรัฐฯ ก็เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่มีการใช้เฮลิคอร์ปเตอร์มาส่งถึงภายในงาน และหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็มีการเรียกประชุมทีม และมีการทำกิจกรรมซีเอสอาร์ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ร่วมลงทุน พร้อมกันนี้ยังมีการกระตุ้นด้านการตลาดอยู่ตลอดเวลา
กระทั่งในเดือน ก.ย.-ต.ค.2559 ผู้ร่วมลงทุนเริ่มสงสัย เนื่องจากไม่ได้รับเงินปันผล และปัญหาถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อผู้ร่วมลงทุนไม่สามารถถอนเงินได้ แต่ชายที่ชื่อ ” อ.กบ” กลับสร้างเรื่องว่าบริษัทมีปัญหา นับจากนั้นเป็นต้นมาผู้ร่วมลงทุนยังไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด ทำให้ผู้ร่วมลงทุนบางส่วน เข้ายื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แต่ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่องว่าบริษัทมีปัญหาเรื่องเงินปันผล ก็ติดต่อ” อ.กบ” ไม่ได้อีกเลย
นาวาตรีหญิง พรจิตต์ อุไรรัตต์ อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า มี 4 พอร์ตในการลงทุน ต่ำสุด 1,000 ดอลลาร์ 5,000 ดอลลาร์ 10,000 ดอลลาร์ และ 50,000 ดอลลาร์ คูณด้วย 37 จะคิดเป็นเงินไทย 37,000 บาท แต่ส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นหลักแสนหลักล้าน เพราะการเข้าร่วมลงทุน คนที่นำเข้าร่วมเข้ามาบอกว่า ตัวเขาเองมีความน่าเชื่อถืออยู่พอสมควร และเน้นย้ำว่าไม่ใช่การแชร์ลูกโซ่ เพราะเราแค่ลงทุนไม่ต้องปันผลต่อ ไม่ต้องหาคนเพิ่ม ฉะนั้นเราจึงเชื่อว่า ตรงนี้คือการลงทุนจริงๆไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แต่พอเราลองถอนเงินออกจากระบบตามที่เขาอ้างว่าสามารถถอนได้ตลอดเวลา ปรากฏว่าเราถอนแล้วไม่มีเงินเข้าบัญชีตามที่กล่าวอ้าง เราเลยเริ่มคิดว่าเป็นขบวนการที่หลอกลวง
“หลายๆคนในที่นี้แจ้งความไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 59 แต่คดียังไม่คืบหน้า มาถึงตอนนี้พวกเราเริ่มเดือนร้อน เนื่องจากบางคนนำเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุน เพราะเชื่อคำที่กล่าวอ้าง อีกทั้งระบบการโฆษณาของเขาที่ดูน่าเชื่อถือ เพราะใช้โฆษณาบนบีทีเอส และเขายังอ้างว่าสามารถเทรตได้มากกว่า 200% แต่จ่ายให้เราแค่หลัก 3-5 % ซึ่งไม่ได้เป็นรายได้ที่สูงเกินจริง” นาวาตรีหญิง พรจิตต์ กล่าว
ทั้งนี้หลังยื่นหนังสือแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำเรื่องส่งไปตามท้องที่ๆได้รับแจ้งความในคดีนี้ไว้แล้วให้เร่งติดตามผู้ถูกกล่าวหาเพื่อสอบสวนต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งข่าว จากข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_324748