จากการสืบทราบของ พ.อ.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา มีขบวนการลักลอบนำแรงงานเข้ามาในประเทศผิดกฎหมายทางด้านอำเภออรัญประเทศ จึงได้สั่งการให้ อ. นิโรธ ทองม่วง ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 12 ประสานกับ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก พ.ต.อ.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผกก.ตม.สระแก้ว ได้สนธิกำลังสกัดจับแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันนี้ โดยมี พ.ท.สมเจตน์ ผลประเสริฐ รอง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล. พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) สภ.คลองลึก ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1201ฯ(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 จัดกำลัง ตำรวจ ทหารพราน ตม.สระแก้ว ปกครองอำเภออรัญประเทศ ออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับแรงงานเขมรผิดกฎหมาย จำนวน 274 คน เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้อง เนื่องจากลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน จึงได้ควบคุมมาตรวจสอบที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่อทำประวัติไว้ก่อนส่งตัวแรงงานทั้งหมดกลับเข้าไปทางด่านปอยเปต และให้ ตม.ฝั่งปอยเปต และฝั่งคลองลึก ด้าน พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) สภ.คลองลึก กล่าวว่า เนื่องจากแรงงานเขมรกลับประเทศกัมพูชา เพื่อไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ จากนั้นจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย จึงขอให้แรงงานชาวกัมพูชา ปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่ามีบัตรแรงงานทำงานในบริษัทของไทยแล้วจะเดินทางเข้ามาทางไหนก็ได้ แรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับมาทำ จะต้องเดินทางผ่านเข้ามาทางด่านปอยเปต และยื่นหนังสื่อแจ้งความจำนงกลับเข้าไปทำงานในประเทศไทยต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตม.คลองลึก เท่านั้น จึงจะสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารเข้าไปได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องเสียเวลาเมื่อเจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ ตรวจพบ เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องจับตัวส่งกลับเข้าไป และจะต้องเดินทางเข้ามาใหม่เสียเงินทั้งเสียเวลาดังกล่าว
ส่วนแนวโน้มการทะลักเข้ามาของแรงงานผิดกฎหมายเพื่อเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น จากการได้รับรายงานข่าวในทางลับในแต่ละคืน มีแรงงานเถื่อนทะลักเข้าไปทำงานนับพันคน แต่จะใช้วิธีเข้าไปอย่างไรนั้นไม่สามารถคาดเดาได้ แต่คาดว่าส่วนใหญ่จะจ้างเหมารถกันไป โดยเสียค่าจ้างคนละไม่น้อยกว่า 2,000-2500 บาท เพราะจากการสอบถามแรงงานเถื่อนที่ถูกจับได้บอกว่า การหลบหนีเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น พวกตนไม่มีเงินจึงต้องพึ่งพาขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน เนื่องจากนายหน้าเหล่านี้จะออกค่ารถให้ก่อน จำนวนดังกล่าวแล้ว และจะไปหักกับเงินเดือนของพวกตนกับบริษัทที่นายจ้างส่งเข้าไปทำงาน โดยพวกตนได้รับค่าจ้างวันละ 220 กว่าบาท ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวยังคงเป็นปัญหาหนักที่หน่วยงานความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจต้องเร่งปราบปราม เพราะแรงงานเหล่านี้เมื่อลักลอบเข้ามาอยู่ในเมืองไทยแล้ว มักมีปัญหาอาชญากรรมตามมา หากเกิดคดีขึ้นคนเหล่านี้จะไม่มีประวัติ ทำให้ยากต่อการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง ทั้งเรื่อง ลัก วิ่ง ชิง ปล้น หรือแม้แต่ฆ่า และข่มขืน ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก
** สมศักดิ์ สารการ /รายงาน
แหล่งข่าวจาก นาจานิวส์ http://najanewsupdate.com/042619/