เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเนิด ผบก.ปส. 3ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ดังนี้
คดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.1บก.ปส.4 ร่วมกับกก.1บก.ป. กก.สส.บก.น.7 และบก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวน 112,837 เม็ด กระเป๋าเดินทางสีแดงยี่ห้อ SIM Research โดยสามารถจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ชั้น 8 ห้องพักที่ 12/210 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายศุภเดชหรือต้น ยิ่งยวด อายุ 30 ปี ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักข้าราชการตำรวจกองปราบปราม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา สายลับแจ้งว่าพบเห็นยาบ้าจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าลากแล้วนำไปเก็บไว้ในคอนโดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าเป้าหมายเพื่อจับกุม
ต่อมาวันที่ 21 เม.ย. ได้ขอหมายค้นศาลอาญา ที่ 247/2560 ลงวันที่ 21 เม.ย. เพื่อเข้าทำการตรวจค้นจากการตรวจค้น พบยาบ้าดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง และใส่ถุงขยะสีดำอีกชั้นวางไว้บนตู้เสื้อผ้าเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางไว้
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนในเชิงลึกพบว่านายศุภเดชเป็นลูกชายของตำรวจยศ รองสว. ท่านหนึ่งสังกัดบช.ก. โดยทราบว่านายศุภเดชมีพฤติการณ์มาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้เชิญตัวผู้เป็นพ่อมาสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น ส่วนตัวนายศุภเดชขณะนี้อยู่ระหว่างออกหมายจับและคิดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และบก.ปส.3 บก.ขส.บช.ปส.และสภ.แม่จัน ร่วมกันจับกุมตัวนายพิสิษฐ์ ณรงค์ฤทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 หมู่5 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา และนายประธาน ชุมแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/1 หมู่ 8 ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 70-5116 เชียงราย โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้บริเวณหน้าห้องพัก ถ.พหลโยธิน ระหว่างกม.ที่ 964-965 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อส่งไปในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาโดยกลุ่มขบวนการจะใช้วีธีการลำเลียงโดยใช้รถบรรทุก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เฝ้าระวังโดยใช้เทคโนโลยีระบบกล้อง REICENPLAS (ไลเซนร์เพลส) จนกระทั่งพบรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าว วิ่งขึ้นมาจากภาคใต้ มุ่งหน้า จ.เชียงราย
จึงได้จัดชุดสืบสวนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ซึ่งสายลับได้แจ้งว่ากลุ่มขบวนการนี้จะดำเนินการส่งยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่จัน เวลา 04.30 น.ของวันที่ 20 เม.ย. เจ้าหน้าที่จึงติดตามจนพบรถบรรทุก 10 ล้อวิ่งอยู่บนถนนสายแม่จัน-ฝาง เตรียมเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนพหลโยธิน มุ่งหน้า อ.แม่สาย โดยใช้ความเร็วเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไป จนพบรถบรรทุกไปจอดอยู่บริเวณริมถนนพหลโยธิน ซึ่งใกล้กับห้องพักชื่อแสงศรี ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้น ภายในรถบรรทุกพบกระสอบปุ๋ยแปลงเป็นเป้สะพายหลังจำนวน 10 ใบ จึงได้เปิดออกดูพบเป็นยาบ้าจำนวน 500 มัดรวมประมาณ 1,000,000 เม็ด (หนึ่งล้านเม็ด) ซุกซ่อนอยู่จึงได้ทำการควบคุมผู้ตัวนายพิสิษฐ์ผู้ขับขี่รถบรรทุก และนายประธานพร้อมของกลางมาสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนนายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ตนได้ขับรถบรรทุกมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อมารับยาเสพติด โดยมีคนชื่อโรด โทรมาให้ไปรับงานที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตนจึงเปิดห้องพักตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ระหว่าง กม.ที่ 964 – 965 ขาขึ้นแม่สาย เป็นระยะเวลา 2 วันตั้งแต่วันที่ 19-20 เม.ย.
ต่อมาในเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 20 เม.ย. ตนจึงขับรถไปกับนายประธานในพื้นที่ตัวเมืองแม่จันเพื่อไปรับของเมื่อไปถึงได้มีรถเก๋งสีขาว จอดข้างทางรออยู่ตนจึงขับรถเข้าไปจอดเทียบมีชาย 2 คนลงมายกกระสอบใส่ท้ายรถเมื่อรับงานเสร็จจึงขับออกมา เพื่อจะนำเอาของไปเก็บที่ห้องพักเมื่อรถจอดบริเวณหน้าห้องพักริมถนนพหลโยธิน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าทำการจับกุมได้ดังกล่าว ซึ่งตนยอบรับว่าทำมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ละครั้งตะได้ค่าจ้าง 1-2 แสนบาท ตามจำนวนยาเสพติดที่ขนส่ง หากยังไม่ถูกจับ ได้ตนก็จะไปขนส้มที่อ.ฝาง เพื่อป้องกันการตรวจค้น ก่อนจะนำยาเสพติดไปส่งที่จ.สงขลาต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีและขยายผลต่อไป
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดดั้นการลำเลียงยาเสพติด และ บก.ปส.3 ร่วมกันจับกุมนายมานพ แซ่วะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/2 หมู่6 ต.สบปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายจตุรวิทย์ วงศ์จักรตุภักดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่6 ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และนายชูชาติ ถนอมรุ่งเรือง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ที่6 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด รถกระบะส่วนบุคคล ยี่ห้อเชฟโรเลต สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ผฉ 9791 เชียงใหม่ รถกระบะส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ผล7411 เชียงใหม่ อุปกรณ์ GPS Tracker 1 ชุด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
โดยสามารถจับกุมนายชูชาติได้ที่โรงแรม เลขที่ 234 หมู่ 1 ต.นครชึม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ส่วนนายมานพและนายจตุรวิทย์ สามารถจับกุมได้ที่ริมถนนพหลโยธิน หน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น หมู่2 ต.เพชรชมพู อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร
พล.ต.ต.ทนัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อนำไปส่งยังจ.กทม.และภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงทำการติดตามเคลื่อนไหว จนพบว่าผู้ต้องหามีการเลี้ยวรถยนต์ยี่ห้อเชฟ ขับหลบด่านตรวจไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นซึ่งพบว่านายมานพเป็นผู้ขับขี่ และนายจตุรวิทย์เป็นผู้โดยสาร
จากการตรวจค้นรถเจ้าหน้าที่พบช่องลับอยู่ใต้พื้นกระบะที่มีการดัดแปลงไว้เก็บยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวทั้ง 2 ราย ก่อนจะขยายผลไปจับกุมนายชูชาติ ซึ่งเป็นผู้ขับรถนำทางได้ดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งข่าว จากข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_316205