เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 60 พ.อ.อดุลย์ ลอยฟ้า ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 31 ทราบว่าจะมีแก๊งโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ลักลอบนำรถยนต์ข้ามแม่น้ำโขง ไปยังประเทศเพี่อนบ้านในเขต อ.ชียงแสน จ.เชียงราย จึงประสานกับ น.อ.ชลทัย รัตนเรือง ผบ.นรข.เขตเชียงราย พร้อมสั่งการให้ ร.อ.โกมินทร์ บุญภา ผบ.ร้อย ทหารพรานที่ 3103 สนธิกำลังร่วมกับ น.ต.ธนชัย รอดทัศนา หน.สถานีเรือเชียงแสน นรข.เขตเชียงราย นำกำลังพร้อมเรือตรวจ นรข. ออกซุ่มตามแนวแม่น้ำโขง เขตบ้านป่าสักหางเวียง ม.9 ต.เวียง อ.เชียงแสน
ต่อมาพบรถยนต์กระบะโตโยต้ารีโว่แค๊ป สีขาว ทราบหมายเลขในภายหลัง คือ 1 ฒง 8765 กทม.ขับเข้าไปในซอยริมแม่น้ำโขง มีคนขับ 1 คน ขับรถลงไปตามตลิ่งที่มีเรือไม้ติดเครื่องยนต์ 2 ลำ ประกบติดกันมีเหล็กพาด 2 ด้าน เพื่อให้รถขับขึ้นเรือ และระหว่างเรือทั้ง 2 ลำ จากนั้นรถยนต์กำลังขับจะขับขึ้นเรือ เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อขอตรวจค้นเข้าจับกุม คนขับรถเห็นเห็นท่าไม่ดี เปิดประตูวิ่งหายไปในความมืด
ส่วนบนเรือที่จอดเทียบท่ารอ เจ้าหน้าที่พบชาย 2 คน ซึ่งเป็นคนขับเรือ ควบคุมตัวมาสอบสวนทราบชื่อว่า นายผาย อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ อยู่บ้านร่มเย็น เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และนายสมศรี อายุ 31 ปี เป็นคนบ้านเดียวกัน ทั้ง 2 คน สัญชาติ สปป.ลาว สารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากคนลาว ให้นำเรือมาบรรทุกรถยนต์ จำนวน 2 คัน ที่ฝั่งไทย และไปส่งที่ฝั่ง สปป.ลาวโดยได้ค่าจ้าง คันละ 10,000 บาท
จากการสืบทราบพบว่า ขบวนการลักลอบขนรถยนต์ข้ามแม่น้ำโขงรายนี้ ได้ขับรถยนต์ตามกันมา 3 คัน โดยเมื่อนำรถยนต์ 2 คันลงเรือเรียบร้อย รถอีกคันก็จะรับคนขับรถทั้ง 2 คันกลับ และเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ทางทหารพรานสามารถสกัดจับรถยนต์ที่จะลักลอบนำออกนอกประเทศ ได้ที่เขตบ้านแซว 1 คัน
ทราบว่า มีออเด้อจากฝั่งประเทศเพิ่อนบ้านเป็นรถ 4*4 โตโยต้าจำนวนมาก และช่วงนี้นิยม รีโว่ สีขาวเป็นพิเศษ ซึ่งขายในตลาดมืดได้ราคางาม หากแปลงเป็นพวงมาลัยซ้ายเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นได้นำตัวนายผาย และนายสมศรี พร้อมยึดเรือยนต์ 2 ลำ และรถยนต์กระบะ นำส่งให้ พงส.สภ.เชียงแสน ดำเนินคดี และทำการขยายผลต่อไป.
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์ http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/590097
