ตร.รัสเซียล่าคนร้ายวางบึ้มรถไฟ สื่อเผยวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัย ชี้มาจากเอเชียกลาง

 เมื่อ 4 เม.ย. เดอะการ์เดียนรายงานความคืบหน้าเหตุก่อการร้ายด้วยการวางระเบิดรถไฟใต้ดิน ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองของรัสเซีย มีผู้เสียชีวิตนับสิบราย บาดเจ็บกว่าครึ่งร้อย ว่าเจ้าหน้าที่ออกล่าตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เชื่อว่าวางระเบิด 2 ลูก ลูกหนึ่งในตู้รถไฟ และลูกที่สองตรงสถานี แต่ลูกที่สองมีคนเห็นก่อนจึงกู้ได้

ทัน

ด้านสื่อบางสำนักของรัสเซียเผยแพร่ภาพและคลิปผู้ต้องสงสัยที่ได้จากกล้องวงจรปิด มีลักษณะเป็นชายชาวต่างชาติ ขณะที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ระบุว่า เป็นชายอายุ 23 ปี จากเอเชียกลาง และว่าเสียชีวิตในเหตุระเบิด แต่ทางโฆษกรัฐบาลยังไม่มียืนยันรายงานนี้ รวมถึงรายงานของสำนักข่าว Tass ว่ามีผู้หญิงตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย

เหตุระเบิดลั่นขึ้นช่วงเวลาราวบ่ายสองครึ่งของวันจันทร์ที่ 3 เม.ย. หลังจากรถไฟเคลื่อนออกจากสถานีเซนนายา พล็อชชาร์ด ได้ไม่กี่นาที ขณะมุ่งหน้าไปสถานีเทคโนโลจิเชสกี อินสติติว คนขับรถไฟตัดสินใจขับต่อไปถึงสถานีต่อไปเพื่อให้ผู้โดยสารอพยพได้ง่ายขึ้น

(AP Photo/www.vk.com/spb_today via AP)

ทีมสอบสวนเชื่อว่าคนร้ายนำระเบิดมาวางไว้ในตู้รถไฟ แรงระเบิดทำให้ผู้โดยสารในตู้อื่นๆ รับรู้ได้ รวมถึง 3 ตู้แรกของหัวขบวน ขณะที่หน่วยความมั่นคงเอฟเอสบี หรือเคจีบีเก่า มีศักยภาพในการตรวจสารระเบิดและรู้ที่มาได้

Interfax

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รัสเซียยังไม่แถลงประณามว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง แม้จะมีการวิเคราะห์ถึง 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กบฏเชเชน ศัตรูตลอดกาลของรัสเซียที่อึดอัดกับการที่แคว้นเชเชนตกอยู่ใต้อาณัติของรัสเซีย และกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ที่แค้นรัสเซียเข้าไปแทรกแซงศึกซีเรีย หรือเป็นไปได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อของทั้งสองกลุ่ม เนื่องจากนักรบเชเชนเข้าไปช่วยไอเอสในซีเรียกจำนวนมาก จากจำนวนนักรบจากรัสเซียที่ไปเข้าร่วมไอเอสถึง 7,000 คน

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวแสดงความเสียใจกับญาติเหยื่อ. (AP Photo/Dmitri Lovetsky, Pool)

ก่อนหน้านี้ ระบบขนส่งมวลชน รถไฟใต้ดินของรัสเซียเคยถูกโจมตีมาเป็นระลอก เช่นปี 2553 ที่กรุงมอสโก มีผู้เสียชีวิต 38 ราย จากนั้นปี 2554 ขบวนรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีด จากมอสโกมาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กถูกวางระเบิด เหยื่อเสียชีวิต  27 ราย และบาดเจ็บ 130 คน

วางดอกไม้ไว้อาลัยทางเข้าสถานีเกิดเหตุ (AP Photo/Yevgeny Kurskov)

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก  ข่าวสด   https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_283185

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *