รอง ผบช.ปส. ยัน คดีเครือข่ายไซซะนะ คืบ จ่อออกหมายจับหากพบหลักฐานเพิ่ม – สอบ เบนซ์ อยู่ระหว่างพิจารณา
พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาสศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ยืนยัน คดีเครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ ล่าสุดมีความคืบหน้าไปมากทั้งแหล่งที่มาของยาเสพติด ที่มาจากแหล่งเดียวกันและความเชื่อมโยงทางคดี โดยคาดว่าน่าจะมีการออกหมายจับบุคคลเพิ่มเติม ทั้ง นายไซซะนะ แก้วพิมพา นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย รวมถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่า นายณัฐพล ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ เนื่องจากพบหลายคดีมีความเชื่อมโยง ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานเพียงพอก็เตรียมขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม
ส่วนกรณีทรัพย์สินจำนวน 12 รายการ ที่สำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. อายัดไว้จะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่นั้น ตำรวจเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินของนายณัฐพล ซึ่งจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ นายณัฐพล นำมาก็ยังไม่สามารถหักล้างกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมีได้ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐานทั้งหมดร่วมกับ ป.ป.ส. ว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว หากตำรวจไม่เชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาถูกต้องก็จะเสนอส่งให้ศาลเป็นผู้พิจารณาต่อไป
ขณะที่กรณี นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ ได้เข้าไปให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นั้น เป็นการเรียกชี้แจงที่ไปที่มาของทรัพย์สิน แต่ในส่วนของ ปส. อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์คำให้การของ นายอัครกิตติ์ ว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด สามารถหักล้างกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังกล่าวด้วยว่า ล่าสุดทางการมาเลเซียยังได้รับการอนุมัติ ให้เจ้าหน้าที่เข้าสอบปากคำ นายคามะลูดีน บิน อาหว่อง ผู้ต้องหา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เพื่อเดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหา ส่วนขั้นตอนขณะนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาที่ทางมาเลเซียจับกุมตัวได้ เป็นคนละชื่อกับหมายจับของตำรวจไทยจึงต้องมีการสอบปากคำ แต่เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งหากสอบปากคำแล้ว ตรงตามความเชื่อของเจ้าหน้าที่ ก็จะมีการออกศาลออกหมายจับในอีกชื่อและขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทยต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งจาก สนุ๊กนิวส์ http://news.sanook.com/2175422/
