อย่างที่ทราบกันดีครับว่า เมล่อนเป็น”ราชินีแห่งพืชตระกูลแตง”เจริญเติบโตได้ดีในสภาพร้อนแห้ง แสงแดดจัดครับ ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการปลูกมีการพัฒนานำเทคโนโลยีโรงเรือนระบบปิด บวกกับการดูแลเอาในใส่ในการเพาะปลูกและการจัดการแปลงอย่างมีระบบมาใช้ในการผลิต
ไทย แวลลี ฟาร์ม (Thai Valley Farm Fresh) ฟาร์มปลูกเมล่อนกว่า 100 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก เป็นอีกแหล่งปลูกเมล่อนคุณภาพ ที่มีคุณศิริพงษ์ พิพัฒสัตยานุวงศ์ ดูแลดำเนินกิจการ
คุณศิริพงษ์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะไปเป็นต้นเมล่อน ให้ผลอยู่ในโรงเรือน ขั้นตอนแรกจะต้องเพาะต้นกล้าจากเมล็ดคุณภาพให้แข็งแรง โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 14 วัน
สำหรับรูปแบบการปลูก คุณศิริพงษ์ บอกครับว่า ที่นี่จะเลือกปลูกลงดินครับ โดยจะใช้อิฐก่อเป็นบล็อก รูปสี่เหลียมผืนผ้า 1 โรงจะมี 3 บล็อก แต่ละบล๊อกจะปลูกต้นเมล่อน 2 แถวคู่กันตลอดแนว
“แต่ละฤดู การปลูกเมล่อน และดูแลจะต่างกัน ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ต้องควบคุมความชื้น จะต้องมีการตัดแต่งใบทำให้แปลงโล่งขึ้นป้องกันเชื้อรา”
โดยทั่วไป น้ำหนักต่อผลของเมล่อนทั่วไป อยู่ที่ประมาณ 1 โลครึ่ง แต่สำหรับเมล่อนพันธุ์ทิเบต ที่ใช้เวลาปลูกเท่ากัน จะได้น้ำหนักมากกว่า ประมาณ 2 โลขึ้นไปต่อผล ค่าความหวานประมาณ 15-17 บริกซ์