เมื่อวันที่ 19 ก.พ. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ระหว่างกองทัพอิรักเปิดปฏิบัติการบุกเมืองโมซุลฝั่งตะวันตก เพื่อจะพื้นที่คืนจากกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส กลุ่มทำงานช่วยเหลือเด็ก เซฟเดอะชิลเดรน แถลงเตือนปฏิบัติการดังกล่าวว่า มีเด็กกว่า 350,000 คนติดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
“กองกำลังอิรักและกองกำลังพันธมิตร รวมถึงสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ต้องทำอะไรบางอย่างในการใช้อำนาจเพื่อคุ้มครองเด็กและครอบครัวให้รอดพ้นจากอันตราย ต้องหลีกเลี่ยงอาคารพลเรือนอย่างโรงเรียน โรงพยาบาล ระหว่างการบุกลึกเข้าไปในเมือง” มอริซิโอ กรีวัลเลโร ผู้อำนวยการองค์กรกล่าว
ผอ.เซฟเดอะชิลเดรนกล่าวว่า ชะตากรรมของเด็กในฝั่งตะวันตกของเมืองโมซุล ถ้าอยู่ต่อต้องเผชิญทั้งระเบิด กระสุนปืน ความหิวโหย หรือถ้าจะหนี ก็ต้องถูกไอเอสประหารหรือสไนเปอร์ส่องยิง ดังนั้นต้องเร่งหาเส้นทางสำหรับการหลบหนีที่ปลอดภัยให้เด็ก
ก่อนหน้านี้ นายไฮเดอร์ อัล อาบาดิ นายกรัฐมนตรีอิรักอธิบายว่าการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพอิรักยึดเมืองโมซุลตะวันออกได้ พร้อมกระตุ้นให้องค์กรต่างๆ ในอิรักเข้าช่วยเหลือทางสิทธิมนุษยชนและสนับสนุนในพื้นที่
เมืองโมซุลตั้งอยู่บนแม่น้ำไทกรีส เมืองถูกเแบ่งออกเป็นซีกตะวันออกและตะวันตก เคยเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของอิรัก ก่อนถูกกลุ่มไอเอสยึดไปเป็นฐานที่มั่นสำคัญในปี 2557
ตามข้อมูลของสหประชาชาติ ฝั่งตะวันตกมีประชากรอาศัยกว่า 8 แสนคนพร้อมทั้งมีการระบุจากหน่วยงานด้านมนุษยชนจากยูเอ็นว่าจะให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ตกอยู่ท่ามกลางการต่อสู้
ด้านพลโทสตีเฟน ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐ ในฐานะผบ.กองกำลังผสมเพื่อต่อสู้กับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย กล่าวชื่นชมนักรบนิกายชีอะห์ อย่างกลุ่มฮาเชด อัล ชาอิบี แม้ว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่าน ว่ามีส่วนช่วยอย่างยิ่งในปฏิบัติการ 4 เดือนที่ผ่านมาเพื่อเข้ายึดเมืองโมซุล
กองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐนี้ประกอบด้วยกองกำลังนานาชาติกว่า 60 ชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามที่จะเว้นระยะความสัมพันธ์ระหว่างกองกำลังผสม รวมถึงฮาเชด อัล ชาอิบี ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอิหร่าน
“โมซุลเป็นสมรภูมิที่ดุเดือนสำหรับทหารทุกกองบนโลกและกองทัพอิรักได้ลุกขึ้นมาท้าทายกับสมรภูมินี้ พวกเขาสู้กับศัตรูและเสียสละเลือดเพื่อชาวอิรักและผู้คนบนโลกใบนี้” พ.ท.สตีเฟนกล่าว