ชาวไทใหญ่หลายเมืองร่วมจัดวันชาติไทใหญ่ครบรอบ 70 ปีคึกคัก ด้านผู้นำไทใหญ่เรียกร้องให้พรรคการเมือง ประชาชนและกองทัพไทใหญ่ร่วมทำงาน

7 กุมภาพันธ์ 2560 ครบรอบ 70 ปี วันชาติรัฐฉาน มีรายงานว่า ในหลายเมืองในรัฐฉานได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เช่นที่เมืองป๋างโหลง เมืองสี่ป้อ เมืองจ้อกเม เมืองโขหลำ เมืองต้างยาน เมืองแสนหวี เมืองป๋างลอง เมืองตองจี เมืองเชียงตุงเป็นต้น โดยมีการจัดกิจกรรมเช่นการแข่งขันฟุตบอล การแข่งขันกอล์ฟ รวมไปถึงการทำบุญและเล่าย้อนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์รัฐฉาน ขณะที่ดอยไตแลง ศูนย์บัญชาการใหญ่ของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน (ใต้) RCSS/SSA ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการจัดงาน “วันชาติรัฐฉาน” อย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี มีประชาชาจากทั่วเมืองรัฐฉาน รวมไปถึงบุคคลสำคัญ บุคคลที่มีชื่อเสียงในรัฐฉานมาเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก นอกจากนี้ยังมีการเชิญทูตประเทศต่าง ๆ กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 7 กลุ่มที่ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่าเข้าร่วมงานในปีนี้ด้วย

เจ้าหาญ หยองห้วย หนึ่งในผู้ขึ้นกล่าวเปิดงาน และยังเป็นบุตรชายของเจ้าฟ้าส่วยแต้ก เจ้าฟ้าเมืองหยองห้วย ได้ขึ้นกล่าวในงานวันชาติรัฐฉานที่ดอยไตแลงว่า กองทัพ พรรคการเมือง และประชาชนต้องทำงานร่วมกัน สถานการณ์การเมืองในตอนนี้ยังไม่อาจไว้ใจได้ โดยไทใหญ่เองจะต้องระมัดระวังท่าทีเพื่อไม่ให้แพ้เหมือนเมื่อ 70 ปีที่แล้ว พร้อมกันนี้ยังระบุอีกว่า หากกองทัพพม่าต้องการสันติภาพก็ไม่ควรเข้าไปรุกรานโจมตีกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ และไทใหญ่เองควรลุกขึ้นมาปกป้องกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกโจมตีในขณะนี้ด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ เจ้าหาญยังกล่าวว่า แท้ที่จริงแล้วรัฐฉานนั้นเป็นผู้ริเริ่มใช้ระบอบสหพันธรัฐตั้งแต่เมื่อ 95 ปีที่แล้ว จากที่เจ้าฟ้าหลายๆเมืองมาร่วมกันตั้งเมืองโดยใช้ระบอบสหพันธรัฐขึ้น ดังนั้นรัฐฉานควรจะเป็นผู้นำในการใช้ระบอบนี้ ขณะที่มีรายงานว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้จะมีการจัดงานวันเกิดให้กับเจ้ายอดศึก ซึ่งจะมีอายุครบ 60 ปีในปีนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนประวัติความเป็นมาของวันชาติรัฐฉานนั้น เป็นวันที่กำหนดให้มีเพลงชาติและธงชาติของรัฐฉาน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2490 ในวันเดียวกันยังเป็นวันที่มีการจัดตั้งสภาสหพันธรัฐฉานขึ้น เป็นจุดริเริ่มของการเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ ชาวไทใหญ่จึงได้ถือเอาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันชาติรัฐฉานตั้งแต่นั้นมา ที่มา Tai TV Online/Panglong/Tai Freedom แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก: สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=16089 .

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *