เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ผบช.ปส.) เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าของเต็นท์รถ บรูโน่ ออโต้ คลินิก ย่านพระราม 3 เข้าให้ปากคำ เพราะรถลัมโบร์กีนีมือ 2 คันที่อยู่ในความครอบครองของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง มาจากเต็นท์นี้ จึงต้องการสอบถามข้อมูล รวมถึงขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงิน เบื้องต้นประสานผ่านคนใกล้ชิดไว้ว่าจะเดินทางมาช่วงเที่ยงวันนี้ โดยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำพยานไป 3 ปาก คือ ไผ่ วันพอยท์ เจ๋ง วันพอยท์ ซึ่งข้อมูลพบว่านายเจ๋ง นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว และเจ้าของเต็นท์รถ รู้จักกัน จึงเรียกมาสอบถามในประเด็นนี้ด้วย
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่อว่า ขณะที่รถหรูอีกกว่า 20 คัน ที่ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ประสานข้อมูลกับทาง สปป.ลาวไปก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครือข่ายนายไซซะนะ และเป็นไปได้ว่าอาจมีจำนวนมากกว่านี้ แม้ว่ารถหรูจะมีการครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดก็จะต้องถูกอายัดไว้ตรวจสอบผู้ครอบครองด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมหมาย ยอมรับว่าได้รับการรายงานจากทางการประเทศมาเลเซียว่าตำรวจมาเลเซีย สามารถจับกุมนายไซนุเด็น หนึ่งในเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ ที่ผ่านมามีพฤติการณ์นำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือลำเลียงมาเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย โดยพบว่ามีความเคลื่อนไหวมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี และมีทรัพย์สินในประเทศไทยมากกว่า 30 ล้านบาท และยังเป็นคนที่เคยติดต่อค้ายาเสพติดกับนายอุสะมาน สะแลแมง ผู้ต้องหาที่ทางการไทยเคยออกหมายจับเมื่อปี 2555 และยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
รายงานข่าวแจ้งว่าในการจับกุมนายไซนุเด็น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเงินสด 30 ล้านบาทซุกซ่อนในท่อน้ำที่บ้านพัก นอกจากนี้ยังพบว่ามีบ้านพักใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/456398