เวลา 01.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 พันเอกชัยยันต์ สิรสุนทร ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่ 1 ร่วมกับ นายอนวัตร สัตตบุตร นายอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อม ร.ท.ประทีป วรรณสอน และ ร.ต.ประเสริฐ ชัยชนะ และ นายอนิรุต พิมพ์สราญ นำทั้งทหาร และ อส.ไชยปราการ เข้าทำการปิดล้อมบ้านเป้าหมาย ที่ทางสายแจ้งมาว่าได้ทำการทำร้ายผู้นำหมู่บ้านชนเผ่าลาหู่บ้านปางมะขามป้อม หมู่ที่ 14 ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ และมีการขายยาบ้าให้กับชาวบ้านและซ่องสุมกลุ่มวัยรุ่นสร้างอิทธิพลในหมู่บ้าน
โดยทางชุดทหารและฝ่ายปกครอง และ อส.ไชยปราการ ได้ลงพื้นที่ ร่วมกับนายอำเภอไชยปราการ และ พันเอกชัยยันต์ สิรสุนทร เข้าปิดล้อมบ้านไม่มีเลขที่ เรียกให้เจ้าของบ้านเปิดประตูแต่เงียบนานเกือบ 5 นาที เมื่อเจ้าของบ้านออกมาเปิดประตู ทางทหารได้เข้าจับตัวและล็อกกุญแจมือทันที ค้นพบปืนสั้นหนึ่งกระบอก ขนาด 11 มม. ลูกกระสุนจำนวน 34 นัด ซึ่งลูกกระสุนได้บรรจุในแม็กกาซีนแล้วจำนวน 4 แม็ก พร้อมที่จะใช้งาน และปืนลูกซองยาวขนาดเบอร์ 12 ลูกกระสุนอีกจำนวน 35 นัด ซึ่งบรรจุในรังเพลิงพร้อมยิง 5 นัด ซึ่งเป็นที่น่าแปลกและมีการตั้งข้อสังเกตว่าคนไม่มีงานทำและพัวพันกับการค้ายาเสพติด ทางส่วนราชการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธร้ายแรงขนาด 11 มม.ไว้ใช้ได้อย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตรวจค้นในบ้านยังพบว่าเสพยาฝิ่นเพราะมีทั้งฝิ่นดิบและขี้ฝิ่น อุปกรณ์เสพ และพบซุกซ่อนยาบ้าในถุงพลาสติกสีน้ำเงินใส่ในขวดพลาสติกสีขาวและวางในตู้เครื่องแป้ง ตรวจนับต่อหน้าเจ้าของบ้านมีจำนวน 234 เม็ด และพบสร้อยทองคำ 2 เส้น และ แหวน 1 วง น้ำหนักประมาณ 10 บาท
ทราบชื่อเจ้าของบ้าน คือ นายธีรภาพ เนติวิทย์ (ปะโหล) อายุ 45 ปี อยู่หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีคดีติดตัวมาหลายคดีและหลบหนีคดีมากบดานอยู่ในหมู่บ้านนี้ และได้เข้าตรวจสอบที่บ้านร้าง ซึ่งเป็นบ้านนายธีรภาพ เนติวิทย์ พบไม้สักทองอีกจำนวนมาก ซึ่งจะเรียกเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาทำการตรวจสอบต่อไป และทราบจากสายข่าวว่ายังพบปืนสงคราม ak 47 อีกหลายกระบอกซึ่งได้ซุกซ่อนไว้เพราะช่วงตรุษจีนได้นำออกมาโชว์ชาวบ้านและยิงอวดชาวบ้านหลายกระบอก แต่เจ้าหน้าที่ยังหาไม่พบ โดยเจ้าตัวอ้างคนมีสีหนุนหลังอยู่ โดยประกาศว่า “ไม่กลัว จับยาบ้าเพียง 234 เม็ดกระจอกพรุ่งนี้ก็ออกมาได้แล้ว”
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_209816