ในฉบับนี้ ขอพาท่านผู้อ่านไปเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เรื่องการปลูก “กล้วยน้ำว้าปากช่อง 50” ที่ “บ้านสวนคลายทุกข์” ของ “คุณศักดิ์ชัย ตั้งตระกูลวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ” ปัจจุบัน ฟาร์มแห่งนี้ ตั้งอยู่เลขที่ 72 หมู่ที่ 6 บ้านคำสมบูรณ์ ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ อยู่ภายใต้การดูแลของผู้จัดการฟาร์ม คือ คุณคมกฤช สุขกุล โทร. (093) 327-1949
คุณคมกฤช สุขกุล เล่าให้ฟังว่า ฟาร์มบ้านสวนคลายทุกข์แห่งนี้มีเนื้อที่ 32 ไร่ เดิมใช้เป็นพื้นที่ปลูกยางพารา ต่อมา ปี 2558 ได้เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยแบ่งพื้นที่ จำนวน 5 ไร่ เพื่อทำนา รวมทั้งปลูกมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตร และพันธุ์ทูลเกล้า ในวงบ่อซีเมนต์ จำนวน 600 บ่อ นอกจากนี้ยังปลูกมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตร พันธุ์ทูลเกล้า มะนาวพันธุ์ตาฮิติ และมะนาวเลมอนเม็กซิกัน ลงดินอีก จำนวน 1,200 ต้น และแบ่งพื้นที่ จำนวน 6 ไร่ เพื่อทำสวนกล้วยเชิงการค้า โดยเลือกปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50
เนื่องจากกล้วยน้ำว้านับเป็นไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและส่งออก ปัจจุบัน ผลผลิตกล้วยน้ำว้ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการของการบริโภค และตลาดมีความต้องการกล้วยเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ราคาขายกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 สูงถึงหวีละ 40-50 บาท
กล้วยน้ำว้า เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตดี ศัตรูพืชมีน้อย แถมให้ผลผลิตตลอดทั้งปี มีระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 1 ปี โดยปลูกต้นกล้วยน้ำว้าต้นแม่เพียงต้นเดียว ต้นกล้วยจะแตกหน่อใหม่ เรียกว่า หน่อตาม ออกมาเรื่อยๆ หากเกษตรกรดูแลแปลงปลูกเป็นอย่างดี จะสามารถเก็บเกี่ยวหน่อตามได้มากกว่า 10 ปี โดยปริมาณและคุณภาพของผลผลิตดีไม่แพ้ที่ได้จากต้นแม่
“ปากช่อง 50” ตอบโจทย์ ความต้องการตลาด
สวนคลายทุกข์ เลือกปลูกกล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 ตามคำโฆษณาที่แพร่หลายในสื่อต่างๆ ว่า กล้วยชนิดนี้เหมาะสำหรับปลูกเชิงการค้า คุณคมกฤช บอกว่า กล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 เกิดจากผลวิจัยปรับปรุงพันธุ์ของ อาจารย์กัลยาณี สุวิทวัส สถานีวิจัยปากช่อง สถาบันอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
โดยทั่วไป กล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 ปลูกดูแลง่าย เติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย หลังปลูกกล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 เกษตรกรจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตรุ่นแรกในช่วงเดือนเดียวกันของปีถัดมา และทยอยเก็บผลผลิตจากหน่อตามในอีก 6 เดือนต่อมา หลังจากนั้น จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในทุกๆ 20 วัน
การปลูกดูแล
คุณคมกฤช ไปสั่งจองต้นกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 ที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเนื้อเยื่อจากสถานีวิจัยปากช่อง ในราคา ต้นละ 35 บาท จำนวน 1,200 ต้น แต่ตอนนี้เพิ่งได้หน่อกล้วยเพียง 400 ต้น นำมาทยอยปลูกที่สวนคลายทุกข์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกกล้วยได้ 133 ต้น
เพื่อให้สวนกล้วยแห่งนี้มีผลผลิตที่ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ คุณคมกฤช ปลูกกล้วยตามคำแนะนำของอาจารย์กัลยาณีเป็นหลัก เริ่มจากเตรียมแปลงปลูก ในระยะ 3×3 เมตร ขนาดหลุมปลูก 50x50x50 เซนติเมตร หลังเตรียมหลุมเสร็จให้คลุกเคล้าปุ๋ยคอกผสมดิน ใส่หลุมละ 1 กิโลกรัม รองก้นหลุมขึ้นมาประมาณ 30 เซนติเมตร ก่อนจึงค่อยปลูกต้นกล้วย กลบบริเวณโคนต้นให้แน่น ทำแอ่งดินรอบต้นเพื่อเก็บน้ำรักษาความชื้นของดิน และควรรองก้นหลุมด้วยฟูราดานป้องกันหนอนกอกล้วย ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อหลุม
หลังปลูกเสร็จ ควรให้น้ำตามทันที เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้นพอเพียง ป้องกันต้นกล้วยเหี่ยวเฉา ใบแห้งและยุบตัว หลังปลูกอาจมีบางต้นตาย บางต้นแตกต้นใหม่ขึ้นแทน ทำให้อายุต้นไม่สม่ำเสมอกัน ในระยะเดือนแรกต้องเอาใจใส่อย่างมาก คอยให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ดินชุ่มชื้นเพียงพอ ที่นี่ให้น้ำในระบบสปริงเกลอร์ เพื่อช่วยให้ต้นกล้วยตั้งตัวได้เร็ว สามารถสร้างใบและลำต้นใหม่ได้ดี
การปลูกกล้วยจากต้นเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อต้องเอาใจใส่ในช่วง 4 เดือนแรกให้ดี จะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน หลังจากปลูก 1-2 เดือนแรก ให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 ประมาณ 100-150 กรัม ต่อต้น เดือนที่ 2-3 ต้นกล้วยจะมีต้นและใบใหม่ทั้งหมด มักมีหญ้าขึ้นคลุมต้น จะใช้แรงงานคนคอยถากหญ้าบริเวณโคนต้น เดือนที่ 3 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทน เดือนที่ 4-5 ดูแลให้ปุ๋ย 15-15-15 ประมาณ 100-150 กรัม ต่อต้น
เดือนที่ 6 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทน งดใส่ปุ๋ยจนกว่าต้นกล้วยจะแทงปลี จึงใส่ปุ๋ยเคมีอีกครั้ง หลังเก็บเกี่ยวจึงเริ่มให้ปุ๋ยรอบใหม่ เดือนที่ 6-7 ต้นกล้วยเริ่มแทงหน่อ สะสมอาหารเพื่อการตกเครือ เดือนที่ 9 กล้วยเริ่มแทงปลี อายุเครือกล้วยจากการแทงปลีจนกระทั่งเก็บเกี่ยว มีอายุประมาณ 4 เดือน เท่ากับหน่อพันธุ์กล้วยน้ำว้าทั่วไป สำหรับกล้วยรุ่นนี้ คุณคมกฤช คาดว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตออกขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2560
ปัญหาอุปสรรคที่เจอ เกิดจากสภาพพื้นที่ปลูกไม่เหมาะสม เนื่องจากพื้นที่บางส่วน มีสภาพเป็นที่ดินลุ่มต่ำ หลังเจอลมมรสุม ทำให้มีน้ำฝนท่วมขังในแปลงปลูกกล้วยนานถึง 2 เดือน ต้นกล้วยไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร แถมเจอปัญหาใบกล้วยเหลืองอีกต่างหาก ต้องรอจนกระทั่งปัญหาน้ำท่วมลดลง จึงค่อยปรับพรวนที่ดินใหม่อีกครั้ง
ด้านการตลาด
คุณคมกฤช บอกว่า ก่อนตัดสินใจปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 เชิงการค้า ผมไปสำรวจตลาดพบว่า กล้วยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถขายได้ทุกส่วน ตั้งแต่หน่อกล้วย ใบกล้วย หัวปลี แถมกล้วยเป็นพืชที่เติบโตได้ดี ดูแลง่าย ปัญหาโรคและแมลงค่อนข้างน้อย แทบไม่ต้องใช้ยาเคมี แม้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในภาคอีสาน จะรู้จักและคุ้นเคยกับการบริโภคกล้วยน้ำว้ามะลิอ่องเป็นหลัก แต่กล้วยชนิดนี้มีผลผลิตน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
สำหรับกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 ปัจจุบันเกษตรกรยังปลูกกันน้อย ยังไม่ค่อยมีผลผลิตออกวางขายในตลาดภาคอีสาน โดยเฉพาะเขตอีสานล่าง ซึ่งมีแหล่งค้าส่งผลไม้ที่สำคัญอยู่ที่ ตลาดเจริญศรี วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ผลผลิตจากตลาดแห่งนี้ กระจายตัวครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ฯลฯ
“ผมไปสำรวจตลาดค้าส่ง ค้าปลีก ในแถบอีสานล่างมาแล้ว ยังไม่มีกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 ออกวางขาย จึงเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ดีที่จะเปิดโอกาสให้กล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 ของสวนคลายทุกข์ เข้าไปสร้างส่วนแบ่งตลาดในพื้นที่ดังกล่าว” คุณคมกฤช กล่าว
จุดเด่น “กล้วยปากช่อง 50”
ทั้งนี้ คุณคมกฤช มั่นใจว่า กล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 จะสามารถสร้างฐานตลาดลูกค้าในภาคอีสานได้ไม่ยาก เพราะมีลักษณะเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาดได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากกล้วยพันธุ์นี้มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเครือมากกว่า 30 กิโลกรัม (ไม่รวมก้านเครือ) จำนวนหวีมากกว่า 10 หวี จำนวนผลต่อหวี ประมาณ 18 ผล ผลกล้วยใหญ่อ้วนดี น้ำหนักผลโดยเฉลี่ยประมาณ 140 กรัม ต่อผล ไส้กลางไม่แข็ง ออกสีเหลือง เนื้อแน่น ผลสุกมีความหวาน 26 องศาบริกซ์ หากมีการดูแลจัดการสวนที่ดี เกษตรกรจะมีผลกำไรจากการขายกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 ประมาณ 10,000-12,000 บาท ต่อไร่ ทีเดียว
ประการต่อมา เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้โรค-แมลง โดยเฉพาะโรคตายพราย และหนอนกอ หรือด้วงงวงเจาะเหง้า ซึ่งฝังตัวอยู่ในเหง้า แพร่ระบาดได้ง่ายโดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง ดังนั้น การปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่ช่วยลดต้นทุนการปลูกกล้วยเชิงการค้า เพราะช่วยลดปัญหาการสูญเสียจากการเข้าทำลายของโรคแมลงศัตรูกล้วยน้ำว้าได้เป็นอย่างดี
หากเป็นไปได้ ควรปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ในแหล่งปลูกใหม่ที่ไม่เคยพบการระบาดของโรคตายพราย และหนอนกอหรือด้วงงวงเจาะเหง้ามาก่อน แค่ลงทุนปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพียงแค่ชุดเดียว หลังปลูกดูแลถึงเดือนที่ 7 ก็สามารถขุดหน่อตามที่แตกหน่อใหม่ออกมาไปปลูกขยายในลักษณะแปลงปลูกปลอดโรค-แมลง ได้อย่างสบายๆ สามารถผลิตหน่อพันธุ์ให้กับเกษตรกรที่สนใจได้ ในราคาหน่อละ 50 บาท แม้ขณะนี้ยังไม่มีเครือกล้วยออกขาย แต่สวนคลายทุกข์ก็มีรายได้จากการขายหน่อพันธุ์กล้วย…คุ้มค่าการลงทุนแล้ว
หากใครสนใจอยากเจาะลึกเรื่องการปลูกดูแลสวนกล้วยพันธุ์น้ำว้าปากช่อง 50 ขอเชิญร่วมฟังในงานสัมมนา “กล้วยหอมทอง-กล้วยน้ำว้า ปลูกกินเองได้ ปลูกขายทำเงิน” ในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560 ณ ห้องประชุม หนังสือพิมพ์ข่าวสด ภายในงานดังกล่าวได้เชิญเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยและผู้ค้ากล้วยที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพมาร่วมวิเคราะห์เจาะลึกเรื่องการปลูก-ตลาดกล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง ในทุกแง่มุม ผู้เข้าสัมมนาจะได้ชิมชาเปลือกกล้วยน้ำว้า กล้วยตาก บางกระทุ่ม กล้วยน้ำว้ายักษ์ พร้อมชมนิทรรศการสายพันธุ์กล้วยน้ำว้า และเลือกซื้อหน่อกล้วย หลากหลายสายพันธุ์
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/420903
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. (02) 580-0021 และ (02) 589-0020 ต่อ 2335, 2343, 2341