2มือปืนยิงคาปอร์เช่ ทีแท้ฝรัง ฆ่าเสร็จเผ่นเขมร

กระสุนของรัสเซีย ตร.แกะรอยเจอจยย. พันแก๊งคอล-เว็บบอล


ซุกเขมร – ตร.ตรวจสอบจยย.พาหนะสังหารนายโทนี่ เคนเวย์ นักธุรกิจอังกฤษ เสียชีวิต ที่พัทยา ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้จุดเกิดเหตุ ส่วน 2 มือปืนคือ นายดิกเคน เทอร์เนอร์ ชาวอังกฤษ และนายแคลไดรา โบนิโต้ ชาวแอฟริกาใต้ หลบหนีเข้าเขมรแล้ว

ล่า 2 มือปืนประกบยิงนักธุรกิ จหนุ่มชาวอังกฤษคารถปอร์เช่ วงจรปิดจับภาพได้ชัด-มาดักรอหน้าสปอร์ตคลับมีเพื่อนอีกคนขี่จยย.พาหนี ตร.แกะรอยตามไปเจอจยย. เช่าจากเต็นท์ในพัทยา ก่อนตามไปที่หอพักพบหนีผ่านด่านที่จ.ตราด ข้ามไปเขมรเมื่อบ่าย 24 ม.ค. โดยมือปืนเป็นชาวแอฟริกาใต้ คนขี่จยย.เป็นชาวอังกฤษ แฉเป็นกลุ่มที่เคยทำธุรกิจร่วมกับเหยื่อ เช็กประวัติคนตายเกี่ยวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์- ทำเว็บฟุตบอล เคยชักชวนชาวต่างชาติมาลงทุน มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายราย- สูญเงินหลายล้าน ก่อนโดนจับเมื่อก.ย.2559 แล้วประกันตัวมาสู้คดี-โดนยิง ตร.ตรวจเช็ก กระสุนตกในจุดสังหาร พบใช้กับปืนผลิตในรัสเซีย

จากคดีสุดอุกอาจเมื่อคนร้ายประกบยิงหัวนายโทนี่ เคนเวย์ อายุ 39 ปี นักธุรกิจชาวอังกฤษ เสียชีวิตคารถปอร์เช่ คาเยน บริเวณหน้าสานิตย์สปอร์ตคลับ ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยภรรยาชาวไทยเผยสามีทำธุรกิจเว็บไซต์และไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่พักหลังขัดแย้งธุรกิจกับหุ้นส่วน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจ สอบกล้องวงจรปิดจับภาพมือปืนได้ชัดเจน มีลักษณะอ้วน สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำและหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า โดยมายืนรอผู้ตายอยู่หน้าสปอร์ตคลับแล้วเดินตามมาประกบยิงในรถหรูระยะเผาขน 1 นัด จากนั้นวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีกคนจอดรออยู่แล้วหลบหนีไป


สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 เรียกประชุมทีมสืบสวนคดีนี้ทั้งหมด โดยกำชับให้เร่งติดตามจับกุมมือปืนที่ก่อเหตุอย่างเร่ง ด่วน เพื่อขยายผลไปถึงผู้บงการสังหาร ส่วนพ.ต.ต.จีระศักดิ์ แอบแฝง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ เชิญพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติม 6 ปาก พร้อมเชิญนางสมพร เคนเวย์ อายุ 32 ปี ภรรยานายโทนี่ มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย เบื้องต้นทราบว่านายโทนี่มีบ้านพัก 4 หลัง แต่พักอยู่กับนางสมพรและครอบครัวที่บ้านเลขที่ 71/21 ม.9 หมู่บ้านสะโลน่า ต.โป่ง อ.บางละมุง โดยพบเป็นบ้านหรูราคากว่าสิบล้านบาท

ด้านพ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ. หนองปรือ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายชุดกำลังทำงานอย่างเต็มที่ โดยเน้นการตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พร้อมประชาสัมพันธ์หากประชาชนมีภาพวงจรปิดหรือภาพกล้องหน้ารถยนต์ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่านายโทนี่เข้ามาอยู่ประเทศไทยนานกว่า 7 ปีแล้ว ก่อนแต่งงานกับนางสมพรเมื่อ 4 ปีก่อน โดยประกอบธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์และเคยถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จับกุมฐานเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับคนต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้อนุญาต เมื่อช่วงปลายปี 2558 ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ในการพิจารณาของอัยการ โดยศาลจังหวัดพัทยานัดหมายให้นายโทนี่มาพบในวันที่ 23 ก.พ. นอกจากนี้ยังพบด้วยว่านายโทนี่ยังเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทคอลเซ็นเตอร์ โดยพบมีพฤติกรรมชักชวนให้ชาวต่างชาตินำเงินมาลงทุนประกอบธุรกิจ ที่ผ่านมามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายรายและสูญเงินหลายล้านบาท ก่อนถูกจับกุมเมื่อเดือนก.ย.2559 พร้อมถูกผลักดันออกนอกประเทศ ซึ่งนายโทนี่ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี ก่อนมาถูกมือปืนยิงเสียชีวิตคารถปอร์เช่

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนการติดตามตัวมือปืนสังหารโหด จากการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าสปอร์ตคลับ สามารถจับภาพมือปืนมีรูปร่างอ้วน สวมเสื้อยืดสีขาวและใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำทับ นุ่งกางเกงวอร์ม สีดำ สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า สวมรองเท้ากีฬา โดยมายืนรออยู่บริเวณด้านหน้า เมื่อนายโทนี่เดินออกจากสปอร์ตคลับไปขึ้นรถปอร์เช่ มือปืนรูปร่างอ้วนได้เดินติดตามไปอย่างกระชั้นชิด เมื่อนายโทนี่ขึ้นไปนั่งบนรถ มือปืนได้เปิดประตูแล้วชักอาวุธปืนออกมายิงใส่เข้าหัวระยะเผาขน 1 นัด จากนั้นวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาว ที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่แล้วขี่หลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เปิดประตูรถปอร์เช่คันเกิดเหตุมาพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อตรวจหาลายนิ้วมือแฝง เนื่องจากคาดว่าจะมีลายนิ้วมือของคนร้ายที่มาเปิดประตูรถแล้วลงมือลั่นไกฆ่าติดอยู่ด้วย


ขัดธุรกิจ – ภาพนายโทนี่ เคนเวย์ ชาวอังกฤษ ถ่ายคู่กับภรรยาชาวไทย เมื่อครั้ง ยังมีชีวิต ก่อนถูกคนร้ายที่เป็นชาวอังกฤษด้วยกันบุกยิงดับคาปอร์เช่หรูที่พัทยา จากนั้นคนร้ายหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชา สอบสวนพบปมขัดแย้งทางธุรกิจ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ล่าสุดกล้องวงจรปิดบนถนนในต.โป่ง อ.บางละมุง ยังจับภาพขณะมือปืนและคนร้ายอีกคนขี่รถจักรยาน ยนต์หลบหนีไว้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์สวมเสื้อยืดสีขาว ใส่กางเกงขายาวสีดำ และใส่แว่นดำปิดบังใบหน้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์เป็นชาวอังกฤษ ส่วนมือปืนเป็นชาวแอฟริกาใต้ เจ้าหน้าที่จึงเร่งกระจายกำลังหาเบาะแสล่าตัว นอกจากนี้ ทีมสืบสวน ยังเก็บปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ 1 ปลอกไปตรวจสอบ พบปลอกกระสุนมีลักษณะคล้ายที่ใช้กับปืนพกสั้นแบบออโตเมติกผลิตในประเทศรัสเซีย เพราะลักษณะปลอกกระสุนที่ส่วนหัวเรียวเล็กกว่าส่วนท้าย ทำให้มั่นใจว่ามือปืนน่าจะเป็นชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่จึงนำปลอกกระสุนไปเปรียบเทียบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนตามแกะรอยไปพบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว ตรวจสอบพบเป็นรถเช่าจากเต็นท์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ทะเบียน 1 กฬ 7994 ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจากเอกสารเช่ารถ ทราบชื่อผู้เช่าเป็นหนุ่มชาวอังกฤษคือนายไมลส์ ดิคเคน เทอร์เนอร์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตามแกะรอยไปตรวจสอบยังห้องพักแห่งหนึ่งย่านพัทยา พบว่านายไมลส์ไม่อยู่ที่ห้องและเก็บข้าวของออกไปแล้ว ก่อนประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศให้ช่วยสกัดจับ

กระทั่งได้ข้อมูลว่านายไมลส์เดินทางออกจากไทยไปยังประเทศกัมพูชา ผ่านด่านตม.คลองใหญ่ จ.ตราด หลังเกิดเหตุเมื่อเวลา 15.04 น. วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา และมีข้อมูลด้วยว่านายไมลส์เข้าไทยที่ด่านเดียวกันเมื่อเวลา 06.50 น. วันที่ 19 ม.ค. ซึ่งจากหลักฐานและรูปร่างลักษณะที่ตรงกัน จึงชี้ชัดว่านายไมลส์คือคนร้ายทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ ก่อเหตุ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหอพักของนายไมลส์ สามารถจับภาพชายชาวต่างชาติลักษณะอ้วน เมื่อตรวจเช็กยืนยันเป็นมือปืนที่ก่อเหตุ ขณะเดินทางมาหานายไมลส์ที่ห้องพัก ทราบชื่อนายอาเบล คาลเดย์รา โบนิโต ชาวแอฟริกาใต้ เมื่อตรวจสอบพบนายอาเบลเดินทางเข้ามายังประเทศไทยที่ด่านตม.คลองใหญ่ เช่นเดียวกับนายนายไมลส์ เมื่อเวลา 06.51 น. วันที่ 19 ม.ค. และเดินทางออกที่ด่านเดิมเวลา 15.03 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่สำคัญยังมีข้อมูลด้วยว่านายไมลส์เป็นกลุ่มเพื่อนของนายโทนี่ที่ประกอบธุรกิจร่วมกัน แต่ช่วงหลังมีปัญหาขัดแย้ง กระทั่งนายโทนี่มาถูกยิงคารถปอร์เช่

ขณะที่พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงศ์สุข รองผกก. พ.ต.ต.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. จัดชุดทำงานลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีด้วย จากแนวทางการสืบสวนพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ธุรกิจของนายโทนี่ เพราะจากการสอบปากคำนางสมพร ภรรยาของ ผู้ตาย ทราบว่าปกตินายโทนี่ไม่เคยมีเรื่อง กับใคร แต่ช่วงหลังมีความขัดแย้งทางธุรกิจกับอดีตหุ้นส่วน สอดรับกับแนวทางสืบสวนที่พบว่าผู้ตายมีธุรกิจทำเว็บไซต์เกี่ยวกับฟุตบอลและเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างชาติในย่านดังกล่าว ซึ่งความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจ ที่ผู้ตายทำนั้น เกิดไปขัดแย้งกับกลุ่มต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้มีการนัดเจรจายุติความขัดแย้งมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่เป็นผล ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจเป็นชนวนสังหารก็ เป็นได้

วันเดียวกัน เว็บไซต์เดอะซัน ออนไลน์ของอังกฤษรายงานคำให้สัมภาษณ์ของน.ส.เคิร์สตี เคนเวย์ วัย 31 ปี น้องสาว ของนายโทนี่ ซึ่งอยู่ที่เมืองเซาแธมป์ตัน ว่าครอบครัวเสียใจมากและไม่รู้สาเหตุเลยว่าทำไมพี่ชายถึงประสบชะตากรรมนี้ โดยนายโทนี่แต่งงานกับนางสมพรและมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นลูกสาวอายุ 3 ขวบ และเพิ่งมีลูกชายอีกคนเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ พี่ชายยังมีลูกเลี้ยงอายุ 10 ขวบในสเปน และลูกชายอีกคนอายุ 9 ขวบ ซึ่งปกตินายโทนี่เป็น คนรักครอบครัวและรักเด็ก อีกทั้งตอนอยู่ประเทศไทยได้ทำการกุศลมากมาย เช่น ช่วยสร้างโรงเรียน ก่อนมาจบชีวิตอย่างน่าสลด

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก  ข่าวสด   http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOVEkyTURFMk1BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE55MHdNUzB5Tmc9PQ==

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *