เสียฉุนเพลงดัง ยิงโจ๋3ศพ

เสียฉุนเพลงดัง ยิงโจ๋3ศพ

ปืนจ่อทีละคน เจ็บสาหัสอีก4


เสี่ยยิงดับ – นายชาตรี จันทร์วีรชัย นายอำเภอกุยบุรี จ.ประจวบ คีรีขันธ์ รุดตรวจสอบเหตุเสี่ยแพกุ้งรัวยิงดับนายราเชนทร์ ปราดเปรื่อง กับแฟนสาว (ภาพเล็ก) และเพื่อนอีกคนเสียชีวิต 3 ศพ ที่โรงพยาบาล กุยบุรี เมื่อวันที่ 3 ม.ค.

เสี่ยแพกุ้งปืนดุ! ฉุนรถเปิดเพลงเสียงดัง กระหน่ำยิงกลุ่มวัยรุ่นดับ 3 เจ็บสาหัสอีก 4 สุดอุกอาจที่กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนหอบลูกเมียหนีการไล่ล่าของตำรวจ สลดเหยื่อกระสุนสาวเป็นครูฝึกสอน เสียชีวิตพร้อมแฟนหนุ่มและพี่ชาย เพื่อนครูและนักเรียนแห่เขียน อาลัยในเฟซบุ๊ก พร้อมโพสต์ภาพทั้ง 3 ยังถ่ายรูปคู่กันไว้ก่อนถูกยิง แฉต้นเรื่องมาจากหลานชายเสี่ย เกิดมีเรื่องชกต่อยกับกลุ่ม ผู้ตาย จนเสี่ยแค้นแทนหลานออกดักโบกรถคู่กรณี ที่ขับผ่านหน้าบ้าน แล้วจ่อยิงทีละคนล้มคว่ำเกลื่อนถนน

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย โดยมือปืนเป็นเสี่ยเจ้าของแพกุ้ง สาเหตุเพราะไม่พอใจกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับหลานชายตัวเองเรื่องเปิดเพลงส่งเสียงดังในวันปีใหม่ แล้วเกิดความโกรธแค้นมาดักใช้อาวุธกราดยิงกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีของหลาน จนกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญชาวกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 2 ม.ค. ร.ต.อ.บัญชา สุขกรง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุชายใช้อาวุธปืนกราดยิงกลุ่มวัยรุ่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน บริเวณริมถนนเลียบชายทะเลสายโพธิ์เรียง-ทุ่งน้อย บ้านเขาขวาง หมู่ 9 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.กุยบุรี นายชาตรี จันทร์วีรชัย นายอำเภอกุยบุรี ตำรวจฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี


ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด ส่วนผู้ได้ รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งร.พ.กุยบุรี และ ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบญาติพี่น้อง ผู้บาดเจ็บอยู่เต็มหน้าห้องฉุกเฉิน และแพทย์พยาบาลช่วยกันรักษาผู้บาดเจ็บ 7 คน ซึ่งถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะ ลำตัว แขนและขา ประกอบด้วย นายราเชนทร์ ปราชญ์เปรื่อง อายุ 19 ปี น.ส.ทิพย์สลาลี แกมไทย อายุ 23 ปี นายศิริวัฒน์ แกมไทย อายุ 16 ปี นายสราวุธ แกมไทย อายุ 29 ปี นายกรวิทย์ พิมพ์ศักดิ์ อายุ 17 ปี นายเกรียงไกร แต้ประเสริฐ อายุ 20 ปี และ น.ส.สาวิตรี คีรีนิล อายุ 25 ปี โดยนายราเชนทร์ถูกกระสุนปืนยิงเข้าศีรษะ เสียชีวิตตั้งแต่จุดเกิดเหตุ ส่วนนายสราวุฒิ และน.ส.ทิพย์สลาลี เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากกระสุนปืนยิงเข้าจุดสำคัญ สำหรับนายราเชนทร์ ปราดเปรื่อง เป็นหลานชาย ผู้อำนวยการโรงเรียนกุยบุรีวิทยา ส่วนนาย สราวุธ และน.ส.ทิพย์สลาลี เป็นลูกของนายธนกฤต แกมไทย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้าน ดงเกตุ ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยเฉพาะ น.ส.ทิพย์สลาลี หรือครูกิ๊ฟ เป็นครูฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียนกุยบุรีวิทยา และเป็นแฟนสาวของนายราเชนทร์ โดยหลังการเสียชีวิตของทั้ง 2 คน ได้มีการแชร์ภาพของนายราเชนทร์ กับน.ส.ทิพย์สลาลี ที่ถ่ายคู่กันก่อนจะถูกยิงเสียจนชีวิต รวมทั้งภาพนาย สราวุธนั่งถอดเสื้ออยู่ท้ายรถปิกอัพคันที่เปิดเครื่องเสียงเสียงดังจนเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทนำไปสู่การสังหารถึง 3 ศพ นอกจากนั้นเพื่อนๆ และนักเรียนโรงเรียนกุยบุรีวิทยา ยังได้โพสต์ไว้อาลัยต่อการจากไปของครูกิ๊ฟกันในเฟซบุ๊กของผู้ตาย เป็นที่สลดหดหู่เป็นอย่างยิ่ง

จากการสอบสวนทราบว่า มือปืนที่ก่อเหตุคือ นาย ธนโชติ หรือน้อย เย็นใจ เสี่ยเจ้าของแพกุ้งโชคศิริชัย หลังก่อเหตุหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเกิดจากความแค้นส่วนตัว เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ตายและผู้บาดเจ็บเปิดเพลงที่รถฉลองเทศกาลวันปีใหม่ แล้วเกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับหลานของนายธนโชติ โดยก่อนจะแยกย้ายกันไปหลานชายนายธนโชติได้ขู่อาฆาตไว้ว่า “แล้วพบกัน” จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุนายราเชนทร์ ขับรถผ่านหน้าบ้านของนายธนโชติ แล้วถูกนาย ธนโชติโบกรถเรียกให้จอดก่อนมีปากเสียงกันขึ้น จากนั้นนายธนโชติใช้ปืนจ่อยิงนายราเชนทร์ ฟุบคารถ ทำให้เพื่อนๆ ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก วิ่งเข้ามาช่วยเหลือ แต่ถูกนายธนโชติกระหน่ำยิงใส่ไม่ยั้งจนได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป โดยเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 4 ราย

หลังเกิดเหตุ นายทวี นริสศิริกุล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ นายชาตรี จันทร์วีรชัย นายอำเภอกุยบุรี ประสาน พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.กุยบุรี เร่งรัดติดตามตัวมือปืนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน โดยล่าสุดตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้แล้ว ซึ่งนายธนโชติ ได้พาครอบครัวหลบหนีออกจากพื้นที่กุยบุรีไปแล้ว พร้อมส่งชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก  ข่าวสด  http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREEwTURFMk1BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE55MHdNUzB3TkE9PQ==

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *