รวบผู้ต้องหาค้ายานรก ยึดไอซ์-ยาบ้าอื้อ

ตำรวจภาค 5 สนธิกำลังทหาร กวาดล้างขบวนการค้ายานรกก่อนปีใหม่ ได้ผู้ต้องหา 10 ราย ยาบ้า-ไอซ์เพียบ

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (26 ธ.ค.59) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.โทเดชา บุตรน้ำเพชร รักษาราชการแทนผู้ช่วยบัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผช.ผบตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 พลตรีเกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ห้วงระหว่างวันที่ 21-24 ธ.ค.59 ซึ่งสามารถจับกุมคดีสำคัญได้จำนวน 5 ราย ผู้ต้องหา 10 คน ของกลางยาบ้ารวม 1,616,285 เม็ด และไอซ์ 8.6 กิโลกรัม

               พล.ต.ท.โทเดชา บุตรน้ำเพชร รรท.ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวและเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก ให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนซึ่งอยู่ในความดูแลของ ตร.ภูธรภาค 5 เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะเดียวกันกลุ่มขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดก็อาจจะให้ช่วงเวลาเดียวกันนี้ในการลักลอบขนส่งยาเสพติดในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารจะต้องมีการอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ให้มีการดำเนินการทำงานอย่างเข้มงวดต่อเนื่องในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยในห้วงระหว่างวันที่ 21-24 ธ.ค.เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสกัดจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดและสามารถยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก

โดยหนึ่งในคดีสำคัญที่จับกุมได้จากการปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ทา จ.ลำพูน และ สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันจับกุมยาเสพติดได้ของกลางยาบ้า 1,116,285 เม็ด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา จากการตั้งด่านตรวจและจุดสกัด ได้ตัวผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ นายเจริญ โอบอ้อม อายุ 52 ปี ชาว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ นายครรชิตพล พุฒทอง อายุ 42 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายพุฒิพงศ์ กุศลพยุงกิจ ชาว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ นายภัทราวุธ ดวงรัตน์ อายุ 40 ปี ชาว อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ นายสมเจต อินทร์คง อายุ 43 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ และนายณัฐตพล แก้วคง อายุ 25 ปี ชาว จ.ชัยนาท

ทั้งนี้การจับกุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการหาข่าวของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่ภาคเหนือนำไปส่งยังพื้นที่ภาคกลาง โดยจะลำเลียงยาเสพติดมากับรถยนต์โดยสารประจำทาง จึงมีการประสานงานกันให้ทำการหยุดรถและทำการตรวจค้นที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่ทา พบผู้ต้องหาที่ 1-3 คือนายเจริญ นายครรชิตพล และนายพุฒิพงศ์ จึงได้ขอทำการตรวจค้นตัวและบริเวณช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถ ผลปรากฏว่าพบของกลางยาเสพติดซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระจำนวนหลายแห่ง รวมของกลางยาบ้าที่ตรวจพบ 740,285 เม็ด จากนั้นทำการสืบสวนขยายผลกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดโดยทันที และสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมจำนวน 3 คน ที่เป็นผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ ได้แก่ นายภัทราวุธ นายสมเจต และนายณัฐตพล พร้อมของกลางยาบ้า 380,000 เม็ด ได้ที่บริเวณจุดสกัดหน้าสถานีตำรวจภูธรห้างฉัตร รวมของกลางยาบ้าทั้งสิ้นจำนวน 1,116,285 เม็ด

ขณะที่คดีสำคัญอื่นๆ ที่จับกุมในห้วงเวลาเดียวกันนั้น เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และทหารร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และวันที่ 21 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า 394,000 เม็ด และไอซ์ 8.6 กิโลกรัม และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่ด่านตรวจแก่งปันเต๊า อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และวันเดียวกัน (22 ธ.ค.59) เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เวียงแก่น ได้ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 56,000 เม็ด บริเวณถนนสายเทิง-เวียงแก่น อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย หลังจากสืบทราบว่าจะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดกัน แต่อย่างไรก็ตามคนร้ายกลับไหวตัวทันและหลบหนีไปได้ ซึ่งจะได้มีการเร่งสืบสวนเพื่อจับกุมตัวอย่างเร็วที่สุด

“ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในครั้งนี้ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก เป็นความร่วมมือกันในการทำงานของทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด ทั้งนี้จะมีการดำเนินการทำงานอย่างเข้มงวดต่อเนื่องในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่อาจจะมีความพยายามฉวยโอกาสของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก”พล.ต.ท.โทเดชา กล่าว

ด้านพลตรีเกษมสุข กล่าวว่า ทางทหารพร้อมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ในช่วงเทศกาลปีใหม่และทุกช่วงเวลา ทั้งนี้แม้จะเป็นในช่วงที่ทหารมีการโยกย้ายตำแหน่งของระดับผู้บังคับบัญชาและช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้นยาเสพติดในทุกช่องทางของทหารยังคงเข้มข้นเป็นปกติเช่นเดิม ทั้งพื้นที่แนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก  คมชัดลึก  http://www.komchadluek.net/news/crime/253775

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *