พริตตี้แจ้งจับ เพื่อนชายบุกฉุด ทำร้ายตาปูด แถมส่งเฟซขู่
พริตตี้สาวแจ้งจับหนุ่มหื่นรุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองกรุง อาสาพาส่งที่พักกลับพาไปบ้านตัวเอง ใช้มีดขู่บังคับหวังขืนใจแถมตื้บจนน่วม เหยื่อสาว สู้สุดฤทธิ์จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนฉวยโอกาสหนีออกไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ข้างเคียง หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความที่สน. โชคชัย แต่หนุ่มหื่นยังเฟซบุ๊กข่มขู่เลยเข้าแจ้งความเพิ่มอีกคดี ผกก.สน.โชคชัยยันไม่นิ่งนอนใจสอบปากคำพยานแล้ว 2 ปาก อยู่ระหว่างขอออกหมายจับจากศาล เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรม ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมน.ส.ทิพย์ หรือน้องทิฟฟี่ นักศึกษาสาววัย 21 ปี เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และมีอาชีพเป็นพริตตี้งานแสดงสินค้าต่างๆ เข้าพบพ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย และพ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สว.(สอบสวน) เพื่อให้การเพิ่มเติมกรณีพริตตี้สาวแจ้งจับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ร่วมสถาบันชั้นปีที่ 2 ภาคพิเศษ พยายามจะข่มขืนและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำหลักฐานล่าสุดเป็นข้อความที่ถูกข่มขู่คุกคามผ่านทางเฟซบุ๊ก เข้าแจ้งความเพิ่มเติม น้องทิฟฟี่เผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.30 น. ไปร่วม รับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมคณะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยมีนายเอที่เพิ่งรู้จักกันเพียง 2 เดือนรวมอยู่ด้วย หลังรับประทานเสร็จนายเออาสาจะไปส่งที่บ้าน แต่ปรากฏว่ากลับพาไปยังบ้านพักในซอยลาดพร้าว-วังหิน 70 ของนายเอ ก่อนใช้กำลังฉุดแขนและอุ้มตัวเข้าบ้านจึงพยายามต่อสู้ขัดขืน นายเอจึงชักอาวุธมีดยาว 1 ฟุต ที่ซ่อนไว้ใต้เก้าอี้ยาวมาจี้บังคับให้ขึ้นไปยังห้องนอนชั้น 2 และพยายามจะข่มขืน จึงต่อสู้อีกครั้งก่อนสบโอกาสวิ่งหนีออกจากบ้าน ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านข้างเคียงที่ประสบเหตุ โดยได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำบริเวณขอบตาทั้ง 2 ข้าง หน้าผาก หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง และแผ่นหลัง จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนจะเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ด้านพ.ต.อ.สุพลกล่าวว่า เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวน หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายในวันนี้แล้วพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับทันที หากพบว่ามีการกระทำความผิดเพิ่มเติมจะขอออกหมายจับเพิ่มในข้อหาอื่นด้วย แต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น พ.ต.อ.สุพลกล่าวอีกว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากรับแจ้งรีบดำเนินการสอบสวนทันที และพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 สั่งให้เร่งรัดจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้นสอบปากคำพยานที่เป็นชาวบ้านที่มาช่วยเหลือไปแล้ว 2 ปาก ส่วนที่มีคนวิจารณ์ว่าการทำงานของตำรวจล่าช้านั้น ต้องขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของศาลแขวงพระนครเหนือ และอยู่ระหว่างการขอหมายจับ ดังนั้นต้องมีสำนวนสอบปากคำผู้เสียหายและเอกสารบางอย่างประกอบด้วย ยืนยันว่าจะจับกุมคนทำผิดมาลงโทษได้แน่นอน |
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก ข่าวสด http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOVEUzTVRJMU9RPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE5pMHhNaTB4Tnc9PQ==
