ตำรวจออกหมายจับสาวใช้แสบ ลักทรัพย์นายจ้าง 7 ล้าน ส่งกำลังตามล่าตัว พร้อมประสาน 5 ด่านตม.
จากกรณี นายธนภาค จิระเดชดำรง อายุ 30 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลโคเทค จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กของตัวเองเพื่อช่วยกันตามหา น.ส.ขิ่น เมียท อู ปู อายุ 30 ปี คนใช้สาวชาวพม่า ภายหลังเข้ามาทำงานเพียง 2 วันในบ้านแลขที่ 41 ซอยตากสิน 12 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี ก่อนจะฉกทรัพย์สินมีค่าทั้งเครื่องเพชร เงินสกุลไทยและต่างประเทศมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท หายสาบสูญจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยตำรวจ สน.บุคคโล ได้ลงพื้นที่ตามย่านแหล่งกบดานทั้งมหาชัย พระประแดง เพื่อติดตามจับกุมตัว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 ธันวาคม พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในบ้านพักของผู้เสียหาย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าของบ้านแจ้งว่า เพิ่งรับ น.ส.ขิ่น เมียท อู ปู มาทำงานเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. ช่วงเวลา 10.00 น. ก็มาขอลาพ่อแม่ผู้เสียหายไปเยี่ยมแฟนที่ประสบอุบัติเหตุรถชน โดยขอเบิกเงินไป 500 บาท พร้อมกับถือถุงพลาสติกไป 2 ใบ โดยพ่อแม่เจ้าของบ้านไม่ได้เอะใจอะไร พร้อมทั้งกดรีโมทเปิดประตูให้ออกไปเรียกแท็กซี่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น.ลูกชายเจ้าของบ้านกลับมาพบว่า กุญแจหายไป 1 ชุด จึงขึ้นไปตรวจสอบในห้องนอนก็พบว่า ทรัพย์สินประกอบด้วย เงินยูโรประมาณ 1 ล้านบาท เงินสดประมาณ 8 หมื่นบาท เครื่องเพชร 3 ชุด รวมมูลค่าประมาณ 7 ล้านบาทหายไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบเวลาประมาณ 22.00 น.
พ.ต.อ.จิณวัตร กล่าวต่อว่า หลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ปิโยรส กัณหะศิริ รอง ผกก.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบตามจุดที่ผู้ต้องหาเคยไปทำงานในย่าน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อเก็บข้อมูล ก่อนให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับจากศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 796/2559 ลงวันที่ 13 ธ.ค.59 ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง พร้อมทั้งส่งกำลังไปตรวจสอบตามแหล่งที่คาดว่าจะไปกบดานอยู่ เช่น ย่านสุวินทวงศ์ มหาชัย บางเสาธง บางแก้ว รวมทั้งประสานด่านตม.ทั้ง 5 ด่าน ประกอบด้วย ด่านแม่สาย จ.เชียงราย ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านจ.กาญจนบุรี ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่าน จ.ระนอง เนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะรีบหลบหนีออกจากประเทศ หรืออาจจะกบดานสักพักเพื่อรอให้ตำรวจหยุดเคลื่อนไหวแล้วค่อยออกไป
พ.ต.อ.จิณวัตร กล่าวด้วยว่า ฝากเตือนไปยังนายจ้างทุกรายในเรื่องของการรับคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในบ้านว่า ให้ตรวจสอบจับตาเป็นพิเศษ หรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ไปทำประวัติเก็บข้อมูลไว้ หรือตรวจสอบโทรศัพท์ของชาวต่างด้าวนั้นๆ ด้วยว่า มีการติดต่อเพื่อนแรงงานชาวต่างด้าว หรือญาติพี่น้องคนไหนบ้าง เพราะหากเกิดคดีเช่นนี้แล้วจะได้ติดตามตรวจสอบได้โดยเร็ว
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/news/crime/252402