พระลูกวัดใจเด็ด..สวมวิญญาณนักสู้..ออกอาวุธทั้งเตะทั้งศอก ต่อสู้คนร้าย 3 ต่อ 1 จนถูกฟันมือบาดเจ็บ ขณะที่ 1 ในคนร้ายถูกแทงสวนได้รับบาดเจ็บ ก่อนพากันหิ้วปีกเพื่อนกลับ พร้อมของมีค่าที่ขโมยได้หลบหนีไป ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุม คาดได้ตัวเร็วๆนี้
สุรินทร์-วันนี้(10 ธ.ค. 59)เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัสกร โพธาราม รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ,พ.ต.ท.รัฐพงษ์ พรมมี พนักงานสอบสวน ,ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เข้าสอบปากคำเพิ่มกับพระสมใจ ปิยะวรรโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัด วัดป่าจิตราวัลย์ บ.ทนง ต.ตระสง อ.เมือง จังหวัดสุรินทร์ หลังจากที่กลับการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ เนื่องจากต่อสู้กับ 3 คนร้ายที่เข้ามาปล้นเอาของมีค่าภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัด จนได้รับบาดเจ็บและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้าเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุเพิ่มที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.รัฐพงษ์ พรมมี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้าย 3 คน คลุมหน้าด้วยหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธมีเข้ามาก่อเหตุปล้นภายในกุฏิเจ้าอาวาส เพื่อเอาของมีค่า ซึ่งในขณะนั้นเจ้าอาวาสไม่อยู่ อยู่เพียงพระสมใจ พระลูกวัดเพียงองค์เดียว และเกิดการต่อสู้กันขึ้น ซึ่งคนร้ายใช้อาวุธมีดพยายามทำร้ายพระสมใจ จนได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดฟันที่แขนขวาลึกจนถึงเอ็น แพทย์ต้องเย็บบาดแผลให้ถึง 4 เข็มและที่ใบหน้าก็มีร่องรอยบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายจากสนับมือ ในขณะที่หนึ่งในจำนวนคนร้ายได้ถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ช่องท้องได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะพากันหลบหนีไปพร้อมของมีค่าที่ได้ไป ส่วนพระสมใจหลังเกิดเหตุได้พยายามโทรหาชาวบ้านให้เข้ามาช่วยและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
พระสมใจ ปิยะวรรโณ พระลูกวัด เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นอาตมากำลังเดินไปร้านค้า ได้ยินเสียงหมาที่วัดเห่า จึงกลับมาและเดินสำรวจรอบกุฏิหลวงพ่อ 2 รอบ ก็ไม่เห็นมีอะไร แต่หมาก็ยังไม่หยุดเห่าอีก เลยเดินรอบที่ 3 พอแหงนดูที่หน้าต่างกุฏิเห็นเปิดอยู่ และเห็นคนร้าย 2 คนโผล่หัวออกมา ก็เลยวิ่งขึ้นไปข้างบนกุฏิ พอถึงระเบียงเห็น 2 คน กระโดดลงมาข้างล่าง จึงได้วิ่งลงมาตามก่อนจะเกิดการต่อสู้กันขึ้น โดยคนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธ จำนวน 2 เล่ม ทั้งมีดพกและมีดพับ ระหว่างต่อสู้กันอยู่ช่วงชุลมุน คนร้ายพยายามใช้มีดแทงเข้ามาแต่ไม่ถูก ตนจึงใช้ศอกๆเข้าไปที่แขนจนมีดหล่น ก่อนจะหยิบมีดที่หล่นแทงสวนปักเข้าไปที่ท้อง จนทำให้คนร้ายถึงกับทรุดนั่งลงกดแผลที่โดนมีดเสียบคาอยู่ ส่วนอีกคนหนึ่งก็กำลังจะเข้ามาฟันตน แต่ว่าฟันไม่ได้ เพราะคนร้ายคนที่ 3 เป็นคนลักษณะขาเป๋ที่อยู่ข้างบนกุฏิ ได้โยนกระเป๋ามาให้รับ จังหวะนั้นตนจึงเข้าแย่งกระเป๋ากับคนร้ายอีก แต่พอดึงกันไปกันมาคนร้ายก็พยามที่จะฟันตน ตนจึงใช้มือไปปัดมือคนร้ายข้างที่ถือมีดเอาไว้ และเพื่อนที่โดนแทงบาดเจ็บก็พูดขึ้น เป็นภาษาอีสานว่า ฟ่าวเถาะสู กูเจ็บหนัก แล้วมันก็กระซากจนมือตนหลุดจากแขนคนร้าย จากนั้นคนร้ายก็ได้ฟันลงมาที่มือข้างขวาที่ตนจับกระเป๋าไว้ จนกระเป๋าหลุดจากมือ แล้วคนร้ายก็โยนกระเป๋าให้กับคนที่ขาเป๋ถือเดินไปก่อน แล้วก็หันกลับมาหิ้วปีกเพื่อนที่บาดเจ็บออกไป พร้อมพูดทิ้งท้ายว่า กูรอโอกาสนี้มาโดนแล้ว ส่วนรูปพรรณที่จำได้ก็คือ รอยสักที่ท่อนแขนข้างขวาของคนร้ายที่ถูกแทง เขียนคำว่า พ่อกูให้มา ใช้หมึกสีเขียวความยาวประมาณ 20 ซ.ม.ความกว้าง 1 นิ้ว
ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง ต้องรอเจ้าอาวาสกลับมาจากการไปปฏิบัติธรรมก่อนจึงจะรู้
ด้าน พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยหลังเข้าตรวจที่เกิดเหตุและสอบปากคำเพิ่ม ว่า คดีนี้เป็นคดีที่คนร้าย 3 คน ได้ใช้อาวุธมีดเข้ามาเพื่อปล้นทรัพย์ ซึ่งขณะนั้นมีพระสงฆ์อยู่ในวัดเพียงรูปเดียว และเกิดการต่อสู้กันขึ้น พระบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้ตำหนิรูปพรรณคนร้ายทั้ง 3 คน เบื้องต้นได้สวมหมวกไอ้โม่ง สวมถุงมือ เพื่ออำพรางในการก่อเหตุ แต่ทางตำรวจมีข้อมูลพอสมควรที่จะติดตามคนร้าย เชื่อว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายมาเร็วๆนี้
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/390377