จากคดีบุกปล้นรถขนเงิน ธ..กรุงไทย ในปั๊มน้ำมัน ที่ จ.สุพรรณบุรี ตามที่ได้เสนอความคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่องนั้น (25 พ.ย.) พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รรท.ที่ปรึกษา สบ. 10 พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวศ รอง ผบชก.พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.ภ 7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.ศสส.ภ7 พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวศ รอง ผบช.สอบสวนกลาง พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. กำลังจากกองปราบปราม ชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวน สภ.สองพี่น้อง และกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร จาก มทบ.17 กว่า 100 นาย ได้ควบคุมตัว ส.ต.ต.วิฑูรย์ เพ็ชรปานกัน ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เเละ นายสมนึก สวยสม อายุ 35 ปี มาสอบสวนที่ สภ.สองพี่น้อง จากนั้นได้นำตัวนายสมนึก ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นชี้เป้า ไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณปั๊มน้ำมัน ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก
ช่วงเย็นวันที่ 25 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้บุกเข้าจับกุมนายชัยเดช หรือใหญ่ เพ็ชรปานกัน อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย ส.ต.ต.วิฑูรย์ ได้ขณะหลบไปกบดานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขต อ.สองพี่น้อง พร้อมของกลางเงินสดจำนวนหนึ่ง อาวุธปืนขนาด 9 มม.1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งและวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง
จากการสอบถามเบื้องต้นรับสารภาพว่าได้ร่วมกับ ส.ต.ต.วิฑูรย์ (น้องชาย) นายสมนึก และนายสุเชาว์ แจ้งดี อายุ 35 ปี ก่อเหตุจริงโดยมีน้องชายที่เป็นตำรวจเป็นคนวางแผนและจัดหาอุปกรณ์ ส่วนตนเป็นคนลงมือบุกเข้าไปชิงเอาเงินจากพนักงานของธนาคาร หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี
ส่วนรถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า หมวกกันน็อกที่สวมใส่ในวันเกิดก่อเหตุ ได้นำไปซ่อนไว้ภายในบ้านร้าง โดยเงินสดนั้นตนได้แกะออกจากกล่อง แล้วใส่ถุงไปผูกไว้ในน้ำในหนองน้ำขนาดใหญ่ ที่บริเวณ หมู่ 2 หลังบ้านภรรยาของตน
ส่วนกล่องบรรจุเงินได้โยนทิ้งน้ำใกล้กัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมได้ค้นหาจนพบกล่องบรรจุเงินจำนวน 4 กล่อง และกระเป๋าผ้าสีดำที่ใช้สำหรับใส่กล่องเงินของธนาคาร ส่วนเงินที่เหลือนายชัยเดชบอกว่า ได้นำเงินใส่กระเป๋าไปซ่อนไว้กลางหนองน้ำขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้เรียกชุดประดาน้ำพยายามค้นหาเงินของกลางอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบกระเป๋าใส่เงินกลางหนองน้ำขนาดใหญ่ ภายในกระเป๋ามีเงินจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้นับว่ามีจำนวนเท่าไร
เบื้องต้น พล.ต.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่าต้องหาทั้ง 4 คน ถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันพยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยยังมีนายสุเชาว์ แจ้งดี อายุ 35 ปี เพื่อนร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งคาดว่าตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้เร็วๆ นี้
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก สนุ๊กนิวส์ http://news.sanook.com/2107778/