!!แม่สายสุดทน!! ดวงอาทิตย์สีเลือด แล้วประชาชนในพื้นที่ 8 ตำบล จะอยู่กันได้อย่างไง
เช้าวันนี้ 27 มีนาคม 2566 เวลา 08.00 น. สภาพอากาศที่เหลวร้ายทวีความรุ่นแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากถูกหมอกควันมลพิษทางอากาศปกคลุมหนาแน่นสะสมหนักในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบต่อประชาชนตามมาในด้านโรคทางเดินระบบหายใจ หู ตา คอ จมูก โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนังผื่นคัน ยิ่งเป็นเด็กหรือคนชราจะได้รับผลกระทบหนักกว่าบุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรืออยู่ในบ้านเรือนของตนเอง โดยเช้าของวันนี้ตรวจวัดพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 542 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 646 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) มีผลกระทบต่อสุขภาพในการใช้ชีวิตประจำวันที่ผ่านมาไม่มีวี่แววว่าจะลดน้อยหมดลงไปหมดปัญญาหาวิธีป้องกันและแก้ไขที่ยืดเยื้อสร้างปัญหาให้กับพีน้องชาวแม่สาย – ท่าขี้เหล็ก – เมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว มานานกว่า 10 ปี เนื่องจากเกษตรกรของเพื่อนบ้านเราทั้ง 2 ประเทศ ยังคงเผาเศษวัชพืชของไร่ข้าวโพด (หรือการเผาป่า) ทำให้ไฟลุกลามเป็นวงกว้างเกิดหมอกควันพิษลอยข้ามมายังหลายพื้นที่อำเภอชายแดนของ จ.เชียงราย ซึ่งอำเภอที่ได้รับผลกระทบหนักได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เชียงแสน อ.แม่จัน อ.เชียงของ อ.เทิง ทั้งที่ภาครัฐของทางการไทยได้วางมาตรการให้ผู้ที่เผาป่าหรือเผาเศษวัชพืชต่างๆ ต้องรับโทษทั้งจำทั้งปรับ ทำให้ประชาชนไม่มีใครกล้าที่จะฝ่าฝืนในมาตรการคำสั่งในการห้ามเผาที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตจังหวัดภาคเหนือ ในระยะเวลาที่กำหนด ถึงว่าไทยเราไม่เผาแต่เพื่อนบ้านของไทยเราทั้ง 2 ประเทศยังเผาอยู่ทำให้หมอกควันพิษลอยข้ามมายังฝั่งไทย สร้างผลกระทบปัญหาไม่มีวันจบสิ้นถ้าประเทศเพื่อนบ้านของเราทั้ง 2 ประเทศ วางแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังปัญหาหมอกควันคงจะเบาบางลงไปกว่านี้ หรือว่าในอนาคต 2-3-4-5 ข้างหน้า ปัญหาหมอกควันคงหมดลงไปได้ ถ้าว่าไม่มีการแก้ไขปัญหาระดับประเทศพีน้องประชาชนในพื้นที่อำเภอตะเข็บชายแดน จ.เชียงราย คงจะได้รับผลกระทบหมอกควันทวีความรุ่นแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาหมอกควันมลพิษทางอากาศนี้ไปได้
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ //// รายงาน ////
