ไล่ล่าระทึก 2 คนร้ายซิ่งเก๋งแหกด่านสกัดหนีข้ามสามอำเภอ ก่อนเจอด่านสกัด ตัดสินใจชักอาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ สุดท้านถูกวิสามัญดับคารถ
(16 พ.ย.) ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามที่ตั้งด่านสกัดสิ่งผิดกฎหมายว่ามีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ-8068 นนทบุรี สภาพแต่งซิ่ง ขับรถหลบหนีการตรวจค้น จากสะพานสมเด็จพระสังฆราชตำบลบ้านเหนือมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จึงได้วิทยุให้ตั้งด่านสกัดจับ แต่คนร้าย ได้ขับรถแหกด่านต่างๆมุ่งหน้าเข้าสู่เขตอำเภอท่าม่วง
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ได้สั่งการทางวิทยุ ให้สถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าม่วง ตั้งด่านสกัดจับ เมื่อคนร้ายขับรถมาถึงด่านที่บริเวณสี่แยกมิราเคิลออฟไลฟ์ อำเภอท่าม่วง คนร้ายได้ขับรถแหกด่านการจับกุมอีกครั้ง โดยคนร้ายได้ขับรถเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางสถานีตำรวจภูธรหนองขาว อำเภอท่าม่วง เมื่อคนร้ายไปถึงได้ขับรถฝ่าด่านของสถานีตำรวจภูธรหนองขาว เลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางอำเภอพนมทวน
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามไป ได้วิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอพนมทวน ทำการปิดกั้นการจราจรที่บริเวณสามแยกไฟแดงพนมทวน เมื่อรถคนร้ายขับมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าโรงเรียนพนมทวนชนูปถัมภ์ หมู่ที่ 8 อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นการจราจร คนร้ายจึงได้หยุดรถจากนั้นคนร้ายที่อยู่ภายในรถ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในบริเวณนั้น จึงใช้อาวุธปืน ยิงใส่รถคนร้าย จากการตรวจสอบเบื้องต้น คนร้ายเป็นชาย 2 ราย ถูกวิสามัญภายในรถดังกล่าว
ในเวลาต่อมา พลตำรวจตรี สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางมาที่เกิดเหตุ จากการตรวจค้นรถพบศพวัยรุ่น 2 คน มีรอยสักเต็มตัวทั้ง2 คน ภายในรถพบปลอกกระสุนตกอยู่เกลื่อนรถ
จากการตรวจค้นเบื้องต้นพบปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่ด้านคนขับทราบชื่อต่อมา นายณัธุวุฒิ อายุ 32 ปี และพบปืนขนาด 7.65 มม. ตกอยู่ที่ข้างตัวคนร้ายฝั่งคนนั่งด้านหน้าซ้าย และอาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบขนาดอีก 1 กระบอก
นอกจากนี้ ยังพบว่าป้ายทะเบียนรถดังกล่าวเป็นทะเบียนของรถมิตซูมิชิ รุ่นแลนเซอร์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจค้นรถโดยละเอียดว่าจะพบสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนมาด้วยอีกหรือไม่ คาดว่าคนร้ายอาจจะโยนสิ่งของผิดกฎหมายทิ้งข้างทาง เนื่องจากระยะทางที่คนร้ายขับหลบหนีเป็นระยะทางไกลกว่า 30 กิโลเมตร
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก สนุ๊กนิวส์ http://news.sanook.com/2102750/