ส่งตัวกลับ 6 สาวไทย ถูกบังคับค้าประเวณีในต่างแดน กลับมาตุภูมิตำรวจสั่งสอบเข้ม คาดว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งในแม่สาย รีดเงินเหยื่อ 6 สาวเอเจนซี่ ก่อนข้ามไปฝั่งเมียนมา เคสนี้อาจเหมือนกรณีเปี้ยวฆ่าหั่นศพ

ส่งตัวกลับ 6 สาวไทย ถูกบังคับค้าประเวณีในต่างแดน กลับมาตุภูมิตำรวจสั่งสอบเข้ม คาดว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งในแม่สาย รีดเงินเหยื่อ 6 สาวเอเจนซี่ ก่อนข้ามไปฝั่งเมียนมา เคสนี้อาจเหมือนกรณีเปี้ยวฆ่าหั่นศพ

 วันนี้ 7 ก.ค. 65 เวลา 17.20 น. ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.และหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตม.เชียงราย ศุลกากรแม่สาย และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ารับตัวหญิงสาวชาวไทยจำนวน 6 คน ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานที่เมืองป๊อก จ.เชียงตุง ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐ) ว้า และได้เผยแพร่คลิปทางสื่อสาธารณะหรือโซลเซียลมีเดียร์ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 65 ว่าพวกตนกำลังถูกบังคับให้ค้าประเวณี โดยล่าสุดทั้ง 6 คน ได้รับการช่วยเหลือจากทางกองทัพว้าและรัฐบาลเมียนมาและถูกส่งตัวกลับมายังฝั่งไทยในช่วงเย็นของวันนี้  

 โดยทั้งหมด 6 คนประกอบด้วย น.ส.นิลลดา ชัยวิเศษ หรือแนนนี่ อายุ 31 ปี ชาว จ.นนทบุรี น.ส.อรพรรณ เผือกยาน หรือเรย์ อายุ 25 ปี ชาว จ.สงขลา น.ส.ขรินทิพย์ ปวรัตน์นาราท์ หรืออิง อายุ 25 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ น.ส.กรรณิการ์ อินธุเดช หรือเน่ อายุ 33 ปี ชาวกรุงเทพฯ น.ส.วีลดา คุ้มพันธ์ หรือเค้ก อายุ 21 ปี ชาว จ.ปทุมธานี และ น.ส.อภัศรา เทพวงษ์ หรือบุ๋ม อายุ 22 ปี ชาว จ.ขอนแก่น โดยทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.ท่าขี้เหล็ก ที่อยู่ติดกับ อ.แม่สาย ได้นำตัวทั้ง 6 คน มาส่งมอบให้ทางการฝ่ายไทยโดยทาง พล.ต.ต.พนัญชัย และคณะได้ขอขอบคุณในการช่วยเหลือคนไทยของประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนั้นได้นำตัว 6 สาวไทยทั้งหมดตรวจสุขภาพเพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และฝีดาษลิง ฯลฯ ก่อนให้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้สอบปากคำ และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย และ ตม.จว.เชียงราย เพื่อสอบปากและขยายผลหากลุ่มเครือข่ายค้ามนุษย์แอบลักลอบข้ามแดน ตามขั้นตอนต่อไป

  ด้านทาง พล.ต.ต.พนัญชัย กล่าวว่าหลังเกิดเหตุสิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการคือช่วยเหลือคนไทยให้กลับคืนสู่ประเทศให้ได้ก่อน แต่หลังจากนี้มีการพิจารณาบังคับใช้กฎหมายโดยจะมีการสืบสวนสอบสวนว่าทั้งหมดที่ได้ถูกหลอกไปทำงานหรือสมัครใจไป เพื่อพิจารณาก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปซึ่งยืนยันว่าหากมีกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันตามผิด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็ทราบว่าทั้งหมดได้เดินออกจากประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณเขตพื้นที่ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ขอประชาสัมพันธ์การไปทำงานต่างแดนให้ประชาชนได้ทราบถึงอันตรายจากกรณีศึกษานี้และให้ระมัดระวังด้วย

  สำหรับหญิงสาวทั้ง 6 คน ได้เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปยังชายแดน อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นพักในพื้นที่ 1 คืน ก่อนลักลอบข้ามแดนไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อจะเดินทางไปทำงานที่สถานบันเทิงที่เมืองลา เขตปกครองพิเศษที่ 4 ประเทศเมียนมาติดชายแดนประเทศจีน โดยมีนายหน้าหลอกว่าจะให้เงินเดือนๆ ละ 600,000 บาท แต่เมื่อเดินทางไปในประเทศเมียนมากลับถูกหลอกพาไปทำงานที่เมืองป๊อกดังกล่าวและถูกบังคับให้ค้าประเวณี แต่ทั้งหมดไม่ยินยอมจึงถูกขู่ให้ประสานญาติเพื่อส่งเงินไปไถ่ตัวและหากมีคนหลบหนีก็จะให้คนที่เหลือใช้หนี้แทนด้วย กระทั่งทั้งหมดเผยแพร่คลิปทำให้ทางการไทยประสานไปยัง พ.ต.อ.สัญญา เนียมประดิษฐ์ ผู้ช่วยฑูตตำรวจประจำสถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ทำให้มีการขอความร่วมมือไปยังรัฐบาลเมียนมาและเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ซึ่งพบว่าทหารว้าได้นำกำลังบุกเข้าไปในโรงแรมในเมืองป๊อกแล้วช่วยเหลือนำตัวสาวไทยทั้ง 6 คน ออกมาได้ก่อนแล้วจึงนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาที่ จ.เชียงตุง และส่งมอบกลับประเทศให้ฝ่ายทางการไทยด้านชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

จากการเจาะลึกของทีมข่าว ทราบว่าก่อนที่สาวไทยทั้ง 6 คน จะแอบลักลอบข้ามแดนตามลำน้ำธรรมชาติตะเข็บชายแดนด้าน ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ไปทำงานที่ฝั่งเมียนมานั้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งใน อ.แม่สายควบคุมตัว พร้อมรีดทรัพย์เรียกรับเงินเป็นจำนวน 60,000 บาท อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบส่วนกลางที่รับผิดชอบในคดีนี้ จะได้สอบปากคำสาวเอเจนซี่ทั้ง 6 คน ตามความเป็นจริง ว่าข่าวที่ออกมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้นจริงหรือไม อย่างไรก็ตามก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้ง 6 สาวเอเจนซี่ว่าจะให้การอย่างไร และซัดทอดไปถึงตัวผู้ร่วมขบวนการเคสนี้อาจเหมือนกรณีคดีหลายปีที่ผ่านมา เปี้ยวฆ่าหั่นศพ

ในเหตุครั้งนี้

ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะภาคเหนือ  บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์  /////   รายงาน  ////////

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *