เชียงรายติดลำดับ 1ใน 10 สุดยอดชุมชนคุณธรรม “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” จากการคัดเลือกทั่วไทย
จังหวัดเชียงราย โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ขอแสดงความยินดีกับชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านศรีดอนชัย (วัดท่าข้ามศรีดอนชัย) ตำบลศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 10 สุดยอดชุมชนคุณธรรม “เที่ยวชุมชน ยลวิถี”
รางวัล 10 สุดยอดชุมชนคุณธรรม “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” เป็นการคัดเลือกชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ จากชุมชนคุณธรรมฯ ทั่วประเทศ จำนวน 228 ชุมชน คัดเข้ารอบ 2 เหลือ 30 ชุมชนเพื่อให้ตัวแทนชุมชนนำเสนอผลงานเชิงประจักษ์ด้วยตนเองให้คณะกรรมการระดับชาติพิจารณาตัดสิน โดย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ในการกำกับของ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (นายวุฒิชัย เสาวโกมุทร) เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือสนับสนุนเชิงวิชาการ และกระบวนการทำงาน มีพลังบวรในชุมชน อาทิเช่น ท่านพระครูสุจิณวรคุณ เจ้าอาวาสวัดท่าข้ามศรีดอนชัย เจ้าคณะตำบลศรีดอนชัย เขต 1 พระมหาอภิวรรณอภิวณฺโณ จำปาวรรณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าข้ามศรีดอนชัย นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ นายกิตติพงศ์ วงค์ชัย นายกเทศมนตรีตำบลศรีดอนชัย นายศุกร์คำ วงศ์ชัย กำนันตำบลศรีดอนชัย นายศุภเดช ไปรเวทย์ ผอ.ร.ร.ชุมชนบ้านศรีดอนชัย และนายสมชาย วงศ์ชัย ผญบ.บ้านศรีดอนชัย ม.7 ประธานชุมชนท่องเที่ยวไทลื้อศรีดอนชัย ตลอดจนผู้นำชุมชน ภูมิปัญญาชาวไทลื้อ และพี่น้องชาวไทลื้อศรีดอนชัย พร้อมด้วยสภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงของและสภาวัฒนธรรมตำบลศรีดอนชัย ร่วมแรงร่วมใจกัน จนได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดและขยายผลความสำเร็จไปยังชุมชนอื่นๆ ปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวิถีชุมชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนเมื่อวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คลี่คลาย เสริมสร้างเศรษฐกิจรากฐานให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
โดยชุมชนที่ได้รับประกาศเป็น 10 สุดยอดชุมชนคุณธรรม “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ดังกล่าว จะเข้ารับโล่เกียรติยศจาก ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทั้งจะได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนทางไดอารี่ของกระทรวงวัฒนธรรม และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลักในช่องทางต่างๆ
รวมทั้งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม สนับสนุนให้ดำเนินกิจกรรมเพื่อต่อยอดโครงการฯ แก่ชุมชนที่ได้รับรางวัล จำนวน 100,000 บาท อีกด้วย