สมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ กทม. พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซมพิมพ์ใหญ่  ปี 2500

สมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ กทม. พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซมพิมพ์ใหญ่  ปี 2500

สมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ กทม. พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซมใหญ่ และ  พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซมใหญ่ รุ่นแช่น้ำมนต์  ปี 2500 เนื้อผง  หลวงปู่หิน วัดระฆัง (พระครูสังฆรักษ์ หิน อินทวินโย) ที่เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งแห่งวัดระฆังโฆสิตาราม

ยอดพระเครื่องที่บรรดานักเลงพระนิยม คงจะไม่มีอะไรเหนือ สมเด็จโตวัดระฆัง แต่จะครอบครองได้ก็ต้องใช้เงิน มูลค่าหลายแสน-หลายล้าน และคนที่มีต่างหวงแหนและส่วนมากจะตกเป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋นหมดเงินกันไปเยอะ เพราะเหตุนี้นักนิยมพระเครื่องจึงหันมาหาพระเกจิที่สร้างหลังจากสมเด็จโตและมีผงเก่าของท่านผสมอยู่ด้วย

คนอายุรุ่นประมาณ 50 ปีขึ้น จึงรู้จักกันแต่หลวงปู่นาค วัดระฆัง และหลวงปู่หิน วัดระฆังที่เป็นหน่อเนื้อสมเด็จโต ที่พระสมเด็จทั้ง 2 ท่าน จะมีผงเก่าสมเด็จโตผสมมากที่สุดในจำนวนวัดที่สร้างพระสมเด็จด้วยกัน แต่เนื่องจากประวัติของ 2 ท่านจะหายาก และ พิมพ์พระจะมีจำนวนมาก ทำให้ลำบากแก่การจดจำ วงการจึงไม่ค่อยมีผู้สันทัดในการตรวจสอบพระของท่านมากนัก จึงยากแก่การเล่นหาผมในฐานะสายตรงที่สะสมพระของทั้ง 2 ท่านไว้มาก จึงขอนำประวัติท่านทั้ง 2 มาให้ท่านทราบให้มากที่สุด จึงได้หาข้อมูลจากหนังสือประวัติของหลวงปู่หิน และหลวงปู่นาคจากหลายแห่งเพื่อประมวลมาให้ท่านได้ทราบข้อมูลให้มากที่สุด เพราะหากประวัติไม่มีการเผยแพร่หลายมากนัก หรือมีข้อมูลน้อยจะทำให้ท่านเสียโอกาสได้รับพระของทั้ง 2 ท่านไว้ครอบครอง เนื่องจากพระของท่านใช้แทนพระสมเด็จโตได้ เพราะมีมวลสารผงเก่าสมเด็จโตผสมมากกว่าสำนักอื่นใดๆ พุทธคุณจึงสามารถใช้แทนกันได้ครับ

การสร้างพระผงต่างๆ ของหลวงปู่ หิน แห่งวัดระฆังนั้น ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หลวงปู่นั้นมีความศรัทธาต่อสมเด็จพระพุฒาจารย์โต มากๆ หลวงปู่ท่านพยายามเสาะแสวงหา พระสมเด็จมาสะสมไว้ ทั้งที่ แตกหักและชำรุด จนมีจำนวนมากพอแก่ความต้องการ ท่านจึงนำมาโขลกเป็นผง นอกจากนี้แล้ว ท่านยังได้รับผงพระปิลันทร์จากกรุมุมพระอุโบสถ ด้านทิศใต้…..ผงจากกรุ วัดสามปลื้ม ผงสุริบาตรและผงตรีนิสิงเห ที่ขาดมิได้ ……การสร้างพระพิมพ์ของหลวงปู่ นั้น เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2482-พ.ศ.2521 มีจำนวน 10 รุ่นด้วยกัน อาจารย์ ขวัญ วิสิฎโฐ ( คุ้มประยูร)เป็นผู้ช่วยเหลือโดยใกล้ชิด

ลักษณะ-เนื้อหา-พุทธศิลป์ ของพระสมเด็จหลวงปู่หิน

พระรุ่นแรกอายุกว่า 70 ปี สร้างเวลาใกล้เคียงกับหลวงปู่นาค ปี 84 แต่หลวงปู่หิน สร้างในปี 2482 เป็นจำนวนมาก เพราะท่านทำผงไว้ได้ประมาณ 5-6 กระถางมังกร ได้พระประมาณหลายหมื่นองค์และหลวงปู่หิน ได้มอบผงบางส่วนให้หลวงปู่นาค ไว้สร้างพระด้วย พระสมเด็จของหลวงปู่หินจะแก่ปูน บางองค์จะเนื้อออกคล้ายฟองเต้าหู้คล้ายผิวของพระกรุบางขุนพรหมในองค์ที่ลงกรุหรือองค์ที่ท่านแช่น้ำมนต์หรือ บางครั้งท่านสรงน้ำท่านจะเสกน้ำมนต์ แล้วรดราดใส่กองพระที่วางกองไว้ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังกุฏิพระแล้วใช้ใบไม้แห้งมาปิดทับไว้ ตามแบบพระเกจิอาจารย์รุ่นก่อนๆ เนื้อบางองค์จึงใกล้เคียงกับพระกรุบางขุนพรหม ส่วนพระของหลวงปู่นาคจะผสมมวลสารของท่านเพิ่มและน้ำมันและกล้วย พระของหลวงปู่นาคจึงคล้ายพระสมเด็จโตมากในองค์ที่ผสมผงมาก ส่วนของหลวงปู่หินจะแกร่งปูนบางองค์มีฟองเต้าหู้ จะคล้ายพระกรุบางขุนพรหม (ข้อมูลจากหนังสือพระรุ่นเก่าปี 17)

…… พุทธคุณพระสมเด็จหลวงปู่หินวัดระฆัง …..

พระสมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆัง มีพุทธคุณสูงส่งมากทาง ด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด แม้แต่ทางด้านคงกระพันก็มีเจอมาหลายรายเช่นกัน นอกจากนี้พระสมเด็จของท่าน ยังใช้อาราธนาทำน้ำมนต์ได้ศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก ใช้รักษาทางโรคคุณไสย หรือ ภูตผีปีศาจเข้าสิงได้เหมือนท่านรดน้ำมนต์เอง ชื่อเสียงทางด้านน้ำมนต์ของดังมาก วันๆมีคนมาให้ท่านรดน้ำมนต์มากมาย ในสมัยสงคราม โลกครั้งที่ 2 พระสมเด็จหลวงปู่หินก็ปรากฏชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างมาก ซึ่งพระสมเด็จของท่านก็ใช่ว่าจะรู้จักแต่คนไทยสมัยเก่าเท่านั้น แม้แต่คนต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือฮ่องกงหรือ ประเทศมาเลยเชีย หรืออินโดนีเซียเขาก็รู้จักและนิยม พระของหลวงปู่ท่านมานานแล้ว

**** ประวัติของท่าน *****

หลวงปู่หิน นามสกุลเดิม สุขเกษม เกิดเมื่อ 9 เดือนพฤศจิกายน 2442 ตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 12 ปีกุน เวลาประมาณ 18.30 น. ที่จังหวัด ปริวแวง ประเทศ กัมพูชา บวชเป็นสามเณร 15ปี ภายหลังได้ลาสิกขาบท มาช่วยโยมมารดาบิดา มาประกอบอาชีพ อยู่พักหนึ่ง และได้ทำการอุปสมบทใหม่อีกครั้ง อายุ 21 ปี ณ พัทธสีมา วัดธนาคัน ตำบลจาง อำเภอ ตะแบก จังหวัด ปริวแวงประเทศกัมพูชา โดยมีพระรัตนาวงศาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แรม เป็นพระกัมมวาจาและพระมงคลเถระเป็นพระอนุสาวนา จารย์…..หลังจากออกพรรษาแล้วท่านได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้ในทางไสยศาสตร์..ชั้นแรกคือการเรียน ตรีนิสิงเห การเรียนลงเลขยันต์…ยันต์ตรีนิสิงเหมีอุปเท่ห์สารพัดซึ่งหลวงปู่ หิน ใช้ได้ผลมามาก หลวงปู่ หินท่านมีความมุ่งมั่นในทางการเรียนวิชาไสยศาสตร์มาก เดินธุดงค์รุกขมูลตามป่าดงดิบประเทศพม่า พระตะบอง นครวัด ได้ร่ำเรียน วิชาการต่างๆมากมาย ฝึกฝนกับพระคณาจารย์ต่างๆ การอบรมเสร็จสิ้น เมื่อ เดือน 12 พ.ศ.2465 หลวงปู่ หิน ได้เดินธุดงค์มาเรื่อยๆ ตามตะเข็บชายแดน ของประเทศไทย มายัง กบินทร์บุรี นครนายก สระบุรีและได้เดินมานมัสการ พระพุทธบาท สระบุรี จากนั้น ใช่ว่า มาอยู่ เมืองไทย ท่านเดินทางกลับไปประเทศพม่า โดยใช้เส้นทางเดิมกลับวัดธนาคันตามเดิม คือ วัดที่ท่านบวชแต่ครั้งแรก

ในระหว่างนั้นท่านก็หมั่นปฏิบัตรธรรมกรรมฐาน จนได้ชื่อว่าเป็นพระที่เชี่ยวชาญทางกรรมฐานท่านหนึ่ง ทุกครั้งที่ท่านออกพรรษา ท่านจะออกธุดงค์ตลอดไม่ค่อยอยู่วัด ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆเวียงจันทร์หลวงพระบาง ย้อนกลับมาเมืองไทย แล้วกลับประเทศพม่า …ครั้งหนึ่งหลวงปู่หินมีความประสงค์จะเดินทางรุกค์ขมูลไปยังประเทศอินเดียให้ได้ แต่แล้วเป็นจุดหักเห ของชีวิตของท่าน พระเพื่อนที่ร่วมเดินทางของท่านเกิดป่วยกลางป่าลึกในระหว่างทาง จึงได้เดินทางมาที่เมืองไทยทำการรักษาตัว ในที่สุดพระรูปนี้ มรณภาพลงที่จังหวัด ตาก …ในเวลานั้นใกล้เวลาจะเข้าพรรษาหลวงปู่ หิน จำต้องจำพรรษาที่ จังหวัด ตาก 1 พรรษา

หลังจากนั้น หลวงปู่ ก็เดินธุดงค์ ต่อไปที่ จังหวัด เชียงใหม่ เลยเข้าไป ประเทศ พม่า และต่อมาท่านเดินทางมาที่ จังหวัด สุโขทัย พักอยู่ ที่ วัดพุทธปรางค์ อำเภอ สวรรคโลก 2 เดือนและออกธุดงค์มาเรื่อย จนถึงจังหวัด พระนครศรีอยุธยาได้พบกับพระอุปัชฌาย์ เทพ ซึ่ง เป็นพระเพื่อนมาแต่เดิม เป็นเจ้าอาวาส อยู่ วัดทางหลวง ตำบล ปลายกลัดอำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านจึงพำนักที่นั้นและช่วยดำเนินการสร้างเสนาสนะสงฆ์ ตลอดจนวิหารและศาลาฟังธรรมต่างๆ จนลุล่วงท่านได้อยู่วัดทางหลวงเป็นเวลา 11 พรรษา อยุธยา นั้น ไม่สิ้นคนดีเป็นคำพังเพย โบราณ ที่เราคุ้นๆหูกันอยู่นะครับ หลวงปู่ หินได้ร่ำเรียนไสยศาสตร์แถบนี้มาก ต่อมาก แม้กระทั่งหลวงพ่อ จงแห่งวัดหน้าต่างนอก… หลวงพ่อ ต่วน วัดกล้วย ซึ่งต่อมาเป็นพระสหายทางสมิกธรรม ฯลฯ ประวัติการร่ำเรียนวิชาทาง ไสยศาสตร์ของท่าน ว่าร่ำเรียนกับพระอาจารย์ท่านใดนั้นมิอาจบรรยายได้ เพราะ หลวงปู่ หิน ท่านออกธุดงค์ เพียงรูปเดียวในระยะหลัง

ต่อมาใน พ.ศ.2478ท่านได้ทราบถึง กิติศัพท์ของท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี เกิดมีความศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงตัดสินใจเดินทางมายัง วัดระฆังโฆสิตาราม และเข้ากราบนมัสการ พระเทพสิทธินายก หรือ หลวงปู่ นาค ขณะนั้น หลวงปู่ นาค ดำรงตำแหน่ง พระราชโมฬี เจ้าอาวาส แห่งวัดระฆัง สนทนาธรรมเป็นที่ถูก อัธยาศัย ยิ่งนัก ….หลวงปู่ นาคจึงได้ชักชวนให้อยู่จำพรรษา อยู่ วัดระฆังเสียที่นี่ คณะ3ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของวัด ปัจจุบันเป็นโรงเรียนโฆสิตสโมสร ในสมัยนั้นทางสำนัก วัดระฆังได้เปิดอบรม กัมมัฏฐานและวิปัสสนาหลวงปู่ นาค ก็ได้แต่งตั้ง หลวงปู่ หินมีหน้าที่ช่วยเหลือในกิจของสงฆ์ทางวัด ตลอดมา ไม่ว่าพัฒนางานก่อสร้างทำนุบำรุงต่างๆ สมัยนั้นมีแต่แรงงานพระในผ้าเหลืองล้วน หลวงปู่ หิน เป็นช่างควบคุมเองทั้งหมดไม่ว่า ครั้งใดคำปฏิเสธนั้น ไม่เคย หลุดจากปากท่านเลยกับการก่อสร้างวัดวาอารามต่างๆหลายวัด แม้ในบางครั้งท่านได้ไม่มีเงินพอที่จะช่วย ท่านก็นำพระผงของท่าน มามอบให้ประชาชนได้บูชากัน เพื่อนำเงินไปใช้ในการก่อสร้าง นั้นๆเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์โดยแท้………

ขอขอบคุณข้อมูลจาก – เอกสารที่ใช้ประกอบการให้ข้อมูล  จากข้อมูลคุณพ่อที่ได้เก็บสะสม-อนุรักษ์ไว้  หนังสือแจกงานศพของหลวงปู่หินที่เจ้าคุณเที่ยง เจ้าอาวาส องค์ปัจจุบันเขียน – หนังสือเซียนพระ – หนังสือมหาโพธิ์ – หนังสือคเณพร

 

สมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ กทม. พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซมพิมพ์ใหญ่ และพิมแช่น้ำมันต์ ปี 2500 เนื้อผง  ชุด 2 องค์นี้  สภาพสวย สำหรับราคาเช่าหาบูชา ทั้ง 2 องค์ อยู่ที่ 8,000 บาท จัดส่งทั่วประเทศ 100 บาท  ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศให้โทรติดต่อก่อนครับ…  สนใจติดต่อ… บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์  โทร – 062 – 0371325  ไอดีไลน์  mm225588  สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 802/2 ม.10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 57130  *** เงือนไขการรับประกันพระแท้ภายในระยะเวลา 30วัน นับตั้งแต่วันที่ท่านได้รับพระ หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนไม่หักเปอร์เซ็นต์  *** หมายเหตุพระต้องอยู่ในสภาพเดิม ไม่ชำรุดหักบิ่น เสียสภาพ ล้างผิว

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *