“บิ๊กตู่”ท้า”ทักษิณ”กลับประเทศ มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ บอกห้าม “ยิ่งลักษณ์” พูดไม่ได้
“บิ๊กตู่”ท้า”ทักษิณ”กลับประเทศ มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ บอกห้าม “ยิ่งลักษณ์” พูดหลังพาดพิงจำข้าวไม่ได้ ขณะที่ “แม้ว” ยุพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว-เปิดทาง”ประยุทธ์”ลาออก-ยุบสภา
วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564 ที่รัฐสภา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเดินทางเข้ามาประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วันสุดท้าย โดยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดในคลับเฮาท์เมื่อวานช่วงหนึ่งว่า สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยได้ภายใน 6 เดือน พลเอกประยุทธ์ ระบุสั้นๆ ว่า ก็ให้เขา “ก็ให้เขากลับมาทำดิ กลับมาทำดิ”
พลเอกประยุทธ์ ยังให้ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ อดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาระบุว่าพลเอกประยุทธ์ พาดพิงโครงการจำนำข้าว เพื่อเบี่ยงประเด็นการบริหารงบประมาณที่ผิดพลาดว่า “ผมไม่พูด ผมไม่อยากพูด”
เมื่อถามว่า ดูเหมือน นางสาวยิ่งลักษณ์ และนายทักษิณ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายกฯถี่มากขึ้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า “ห้ามเขาได้ไหมล่ะ” เมื่อถามย้ำว่า หากห้ามไม่ได้ต้องชี้แจงใช่หรือไม่นั้น พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า “ชี้แจงอย่างไร ซึ่งผมได้ชี้แจงไปแล้ว ผมไม่อยากไปทำร้ายใครอยู่แล้ว เพียงแต่การปล่อยให้คนในประเทศมาทำร้ายผม มันไม่ถูกต้อง”
“ทักษิณ” ยุพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว-เปิดทาง”ประยุทธ์”ลาออก-ยุบสภา
ขณะที่นายทักษิณ ได้ร่วมเสวนา ในหัวข้อ อยู่มา 7 ปี หนี้ท่วมประเทศ หนี้รัดคอประชาชน มาถามพี่โทนี่ดูว่ามีทางออกไหม ในคลับเฮาส์และเฟซบุ๊กของCARE คิด เคลื่อน ไทย เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถึงกระแสข่าวการยุบสภาว่า เวลานี้ต้องถามพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเหนื่อยหรือยัง พอหรือยัง ชาวบ้านก็ยังลำบากอยู่อย่างนี้ คุณก็นั่งเป็นรัฐบาลที่ทำอะไรไม่ค่อยได้
“ถ้าคุณถอนตัวรัฐบาลกไปไม่ได้ หรือไม่ก็ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ว่าท่านเหนื่อยหรือยัง ท่านจะโทษใครอีกไหม เพราะเมื่อไร่ท่านโทษตัวก็พอแล้ว กลับบ้านได้แล้ว”
“ท่านโทษคนอื่นหมด ทุกคนทำให้ท่านเดือดร้อนหมด ซึ่งมันมีสองวิธี นายกฯเบื่อก็ยุบสภา หรือลาออก ถ้ายุบสภาก็คืนให้ประชาชนตัดสินใจ หรือไม่ถ้านายกฯไม่ยุบสภา หรือลาออก พรรคร่วมรัฐบาลจะออกไหม ถ้าออก ถ้านายกฯก็ต้องยุบสภาหรือลาออก”
“ยิ่งลักษณ์”โต้ปมจำนำข้าว ซัดกล่าวเท็จในสภา
ทั้งนี้จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรก วันที่สอง ในวันที่ 1 มิถุนายน ในประเด็นการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 โดยตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราพยายามทำเต็มที่ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ งบวัคซีนตนมีไม่จำกัด ในสถานการณ์ที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ตนใช้หนี้จำนำข้าวไปเท่าไหร่ ไม่อยากจะย้อนกลับ แต่ใช้หนี้ไปแล้ว 7 แสน 5 พันล้านบาท เหลือภาระหนี้อีก 2.8 แสนล้านบาท ต้องใช้อีก 12 ปีถึงจะหมด
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องทั้งหมดนี้ว่า เมื่อวานได้ฟังคุณประยุทธ์ชี้แจงในสภาว่าหนี้สาธารณะเพิ่ม เพราะมีหนี้จำนำข้าวในลักษณะที่เป็นการพาดพิงถึงดิฉัน โดยอ้างว่าท่านใช้หนี้ไปแล้ว 7 แสน 5 พันล้านบาท และเหลือภาระหนี้อีก 2.8 แสนล้านบาท ต้องใช้หนี้อีก 12 ปี ถึงจะหมดนั้น ขอยืนยันว่าคุณประยุทธ์กล่าวเท็จในสภา และก็อยากบอกว่า 1.เมื่อคุณประยุทธ์ทำรัฐประหารยึดอำนาจนั้น ยอดหนี้สาธารณะของโครงการ เป็นภาระค้ำประกัน และมียอดไม่ถึง 5 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน และโครงการยังมีสต๊อกข้าวสารหลายแสนล้านบาท ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปสอบถาม รมว.คลังของท่านดู เสียดายที่รัฐบาลท่านปล่อยปละให้มีการทุจริต นำข้าวดีๆ เหล่านั้นไปจัดเกรด ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำมาก่อน มีผลให้นำไปขายในราคาต่ำกว่าราคาจริง เป็นอาหารสัตว์บ้าง เป็นพลังงานบ้าง ซึ่งถ้าขายข้าวกันอย่างสุจริต ภาระคงค้างที่เกิดจากภารกิจช่วยเหลือชาวนาอย่างจริงจังในครั้งนั้นก็ย่อมจะไม่มาก และโครงการก็มีความคุ้มค่าต่อภารกิจ และเศรษฐกิจโดยรวม ตามรายงานของสภาพัฒน์อีกด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า 2.ส่วนคำกล่าวหาในลักษณะที่ว่ารัฐบาลดิฉันสร้างหนี้มาก มาดูข้อมูลจริงกัน ในช่วง 3 ปีงบประมาณ (2555-2557) ที่ดิฉันบริหารงาน การกู้เงินเพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุลลดลง ต่อเนื่องทั้ง 3 ปี จาก 400,000 ล้านบาท เป็น 300,000 ล้านบาท และ 250,000 ล้านบาท (และวางเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นงบประมาณสมดุล ในปี 2560) รวมยอดหนี้ฯ 3 ปีงบประมาณ เท่ากับ 950,000 ล้านบาท
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า 3.มาดูฝีมือสร้างหนี้ของคุณประยุทธ์กันว่าเป็นอย่างไร การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่กำลังลดลงและควรจะลดลงอีก กลับทะยานเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ที่มียอดเงินกู้ 250,000 ล้านบาท ปรากฏว่ามีการกู้เงินที่มียอดสูงขึ้นในช่วงเวลาอีก 4 ปี ต่อเนื่องก่อนการเลือกตั้ง (2559-2562) เป็น 390,000 ล้านบาท ; 552,921.7 ล้านบาท; 550,358 ล้านบาท และ 450,000 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นช่วงก่อนจะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 เสียอีก
“พอปี 2563 และ 2564 ก็ยิ่งกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณสูงเป็นประวัติการณ์ คือ 683,000 ล้านบาท และ 623,000 ล้านบาท และในสองปีนี้ยังออก พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อภารกิจโรคระบาด อีกสองฉบับ ปี 2563 กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และในปี 2564 เมื่อไม่กี่วันก่อนก็กู้อีก 5 แสนล้านบาท และนี่ยังไม่รวมที่คุณประยุทธ์กำลังเสนอ พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 ที่ต้องกู้ชดเชยขาดดุลอีก 7 แสนล้านบาท รวมเป็นยอดเงินกู้ถึง 5.699 ล้านล้านบาท หนี้ขนาดนี้ใช้นานเท่าไหร่จะหมด
“4.มาดูดอกเบี้ยจ่ายกันบ้างก็พอจะบอกได้ว่าหนี้ที่ท่านก่อไว้สร้างภาระแค่ไหน งบประมาณปี 2565 ที่กำลังอภิปรายกันอยู่ มียอดรวม 3.1 ล้านล้านบาทนี้ ต้องจัดเตรียมไว้จ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 182,988 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาลดิฉัน ในปีงบประมาณ 2557 ก่อนรัฐประหาร งบจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่เพียง 109,511 ล้านบาท ดอกเบี้ยสูงขึ้นมาก เพราะคุณประยุทธ์กู้เงินมากมาย
“5.รัฐบาลดิฉันวางระบบชำระคืนหนี้สาธารณะก้อนโตที่ทิ้งค้างไว้ตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ทำให้รัฐบาลคุณประยุทธ์นอกจากจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแล้ว ยังลดยอดหนี้สาธารณะลงไปหลายแสนล้านบาทโดยท่านไม่ต้องทำอะไรเลย แทนที่จะชื่นชมรัฐบาลก่อน กลับเอาแต่โทษโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อเบี่ยงเบนความเสียหายที่ท่านก่อขึ้น
“วันนี้ดิฉันไม่ได้บริหารประเทศมา 7 ปีแล้ว คุณประยุทธ์หัดโทษตัวบ้างเถอะค่ะ อย่าโทษแต่ดิฉันเลย ดิฉันฟังมา 7 ปีแล้ว สุภาพบุรุษ ชายชาติทหารเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกค่ะ” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว