รองแม่ทัพภาคที่ 3 ลงพื้นที่เชียงราย ติดตามสถานการณ์แก้ปัญหาหมอกควัน
https://www.youtube.com/watch?v=ETJjv3c67Ek
วันนี้ 12 มี.ค. 64 พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานการจัดกิจกรรมฉีดพ่นน้ำละอองฝอย เพื่อลดค่าปริมาณฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 และลดหมอกควันและฝุ่น พร้อมกันทุกอำเภอ ทั่วทั้ง จังหวัดเชียงราย ณ ลานหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย โดยมี พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง อมรรันต์ จารึกสมาน ปลัดฝ่ายป้องกันแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ปภ.เชียงราย เทศบาลตำบลแม่สาย เทศบาลตำบลเวียงพางคำ อส.อ.แม่สาย ที่ 5 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ หน่วยควบคุมไฟป่าดอยตุง กรมป่าไม้หอการค้า อ.แม่สาย ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเขตพื้นที่ อ.แม่สาย นำเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำควบคุมระยะทางไกล LUF-60 และรถบรรทุกน้ำดับเพลิงออกตระเวนพ่นละอองน้ำ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย หน้าด่านพรมแดน และใกล้แยกห้วยน้ำรินแม่สาย ท่ามกลางความสนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว และรู้สึกเย็นสบายขึ้น และเจ้าหน้าที่ AIS ได้นำน้ำดื่มจำนวน 2,400 ขวด มามอบไว้ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานผ่าน รองแม่ทัพภาคที่ 3
โดยวันนี้จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพื้นที่ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วน คุณภาพอากาศบริเวณ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 212 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพรุนแรงควรปรึกษาแพทย์
ทางด้าน พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากการบิน ฮ.สำรวจพื้นที่ภาคเหนือ พบว่า จ.ลำปาง ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ ส่วน จ.เชียงราย ก็อยู่ในเกณฑ์ที่มีฝุ่นควันน้อยกว่าที่ตนคาด แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งความกดอากาศจากประเทศจีนพัดควันจากการเผาป่าและวัชพืชจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา และเจอลมที่พัดจากใต้ขึ้นเหนือ ทำให้มารวมกันที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะให้มีบูรณาการร่วมทุกฝ่าย วางแผนการเป็นขั้นตอนในการแก้ไขปัญหา และภาคเอกชน ประชาชนได้มาช่วยกัน และประชาชนควรพิทักษ์หวงแหนไม่มีการเผาป่าและพื้นที่โล่ง และประสานงานผ่านทางคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา หรือ TBC ให้ช่วยกันรณรงค์ป้องกันไม่ให้มีการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน และช่วยกันทำแนวกันไฟตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา
ภาพ – สายฝน ลุ่มแม่น้ำสาย ข่าวแม่สายนิวส์ออนไลน์
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ ///// รายงาน ////////