จังหวัดเชียงรายบินสำรวจ ประเมินสถานการณ์แก้ปัญหาหมอกควัน ลดค่า PM 2.5

จังหวัดเชียงรายบินสำรวจ ประเมินสถานการณ์แก้ปัญหาหมอกควัน ลดค่า PM 2.5

ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายบินสำรวจ สถานการณ์หมอกควัน ลดค่า PM 2.5 ในอากาศ เพื่อแสวงหาเเนวทางแก้ไขและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

  เช้าวันอังคารที่ 9 มีนาคม 2564 สถานการณ์หมอกควัน เเละ ค่า PM 2.5 ในอากาศที่จังหวัดเชียงราย จัดอยู่ในลำดับขั้นน่าเป็นห่วง อีกทั้งค่าดัชนีคุณภาพอากาศยังคงอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยจุดตรวจวัดค่าอากาศที่ในจังหวัดเชียงราย พบว่า เป็นสีแดงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น  ล่าสุดทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย  ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจ สถานการณ์หมอกควัน และค่า PM 2.5 ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

     ซึ่งทางจังหวัดเชียงราย โดยนายประจญ  ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีคำสั่งออกประกาศงดการเผาทุกชนิด มาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็ยังพบบางส่วนที่มีการฝ่าฝืนคำสั่ง มีการลักลอบเผา บางส่วนเป็นฝุ่นควันข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ และในปีนี้ก็พบว่ามีจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในพื้นที่มีไม่มากเหมือนกับในทุก ๆ ปี แต่ก็ยังมีปริมาณของฝุ่นควันเเละค่า PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระยะนี้  จากการบินสำรวจพบว่า มีปริมาณของฝุ่นควัน ปกคลุมในอากาศอยู่เป็นจำนวนมาก  โดยข้อมูลจากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ได้บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 พบว่า มีจุดความร้อนมากที่สุดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา  6,336 จุด ราชอาณาจักรกัมพูชา 1,531 จุด  และจุดความร้อนประเทศไทยมี 1,737 จุด พบมากที่สุดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 465 จุด เชียงใหม่ 355 จุด และลำปาง 193 จุด สรุปจุดความร้อนภาคเหนือ รวม 1,494 จุด

     ทางด้าน พ.ต.อ. วสุพล บาลี รอง ผบก.จ.เชียงราย หนึ่งในคณะที่ขึ้น เฮลิคอปเตอร์ เพื่อตรวจสถานการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย บูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เข้มข้นเด็ดขาด เพื่อปฏิบัติการอย่างเข้มข้นกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการห้ามเผา ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศที่กระทบกับทุกภาคส่วน จึงขอให้ประชาชนให้ความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งทุกชนิดทุกชนิดและทุกเวลา เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและสังคม ให้พ้นจากวิกฤติหมอกควันไฟป่าและมลพิษทางอากาศ

     ด้าน นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ ป้องกันจังหวัดเชียงราย กล่าวเสริมด้วยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้แนวคิดว่า ควันจะไม่เกิดถ้าหากไม่มีไฟ ไฟจะไม่เกิดหากว่าไม่มีคนไปจุด การป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนั้น ยังได้ประสานไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็กของเมียนมา และแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งทางการทั้ง 2 ประเทศเพื่อนบ้านตอบรับที่จะให้ความร่วมมือในมาตรการงดเผา ส่วนภาคประชาชนตามที่จังหวัดได้ประกาศงดเผาไปแล้ว ขอความร่วมมือกันด้วย รวมทั้ง ในช่วงนี้ควรงดเข้าป่า เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฏหมาย ซึ่งจจะมีความผิดและจะถูกดำเนินคดีถึงที่สุดอีกด้วยได้

 

แหล่งข่าวจาก – สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์  //////  รายงาน  /////////

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *