ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ฟันธงทีมปล้นเงินชาวสวนยางเชื่อไม่ใช่ทหาร ระบุนอกจากกล้องวงจรปิดยังทิ้งร่องรอยไว้เพียบ ส่วนเงินผู้เสียหายยื่นยันมาจากการทำธุรกิจรับซื้อยางพารา พร้อมส่งสายสืบและตำรวจวิทยาการร่วมแกะรอย ส่วนกลุ่มคนร้ายเป็นคนในระแวกใกล้เคียงที่มีรวมผู้บงการคาดไม่ต่ำกว่า 8 คน
จากกรณีคนร้าย 4 คน เป็นชายฉกรรจ์ แต่งกายคล้ายทหาร 4 คน ขับรถเก๋งสีดำ ตามประกบรถ นายไพศาล อุคำ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 19/20 หมู่ที่ 6 ตำบลกกแดง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกหาหาร แล้วทำการปล้นเงินไปจำนวน 2 ล้านบาท โดยเหตุเกิดที่ถนนสายบ้านคำบง-ม่วงไข่ หมู่ที่ 4 ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ต่อเนื่องถนนรอบวนอุทยานแห่งชาติภูหมู หมู่ที่ 5 ซึ่งห่างจากสถานีตำรวจนิคมคำสร้อยเพียง 500 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2559 เวลา 08.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนและชุดสอบสวน นำโดย พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.อัครชัย ดลโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร และ พ.ต.อ.รณรงค์ นาคทั่ง ผกก.สภ.นิคมคำสร้อย พร้อมพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกันประเมินผลการสืบสวนและสอบสวน เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ต้องหาที่ร่วมกันปล้นในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ที่จะทำหน้าที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ผู้บงการ ผู้วางแผน ผู้ชี้เป้า ไปจนถึงผู้ที่ลงมือปฎิบัติการ
พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในจำนวนเงินที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งแต่งตัวคล้ายทหารเข้าทำการปล้นเงินนายไพศาล อุคำ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 19/20 หมู่ที่ 6 ตำบลกกแดง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร นั้น ผู้เสียหาย ได้ให้ปากคำว่าเงินที่ถูกปล้นไปนั้นเป็นเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจ ไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการพนัน แต่ก็ยังคงต้องสอบสวนให้แน่ชัด
ส่วนประเด็นคนร้ายที่แต่งกายคล้ายทหารถึง 4 คน และมีภาพที่ถูกบันทึกได้จากกล้องที่ติดหน้ารถของผู้เสียหายนั้น หลักฐานในที่เกิดเหตุยังมีอีกมาก ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจวิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจสอบรายนิ้วมือแฝง รวมไปถึงเส้นผม หรือหลักฐานที่อยู่ในรถผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งที่ขณะนี้สามารถได้รอยนิ้วมือและกำลังทำการตรวจสอบทั้งภาพไปยังแฟ้มประวัติอาชญากรรม
พล.ต.ต.อภิชิต กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญขณะนี้คือการตีวงกลุ่มคนร้ายเบื้องต้น ได้มีการแยกกลุ่มเพราะการลงมือจะต้องรู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี และเชื่อว่าจะต้องมี ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จากนั้นจะมีการสั่งการลงมา โดยจะมีคนชี้เป้า คนดูต้นทาง และไปถึงกระบวนการของกลุ่มปฏิบัติการ ที่เชื่อว่า ผู้ที่ลงมือครั้งนี้ไม่ใช่ทหาร แต่อาจจะเป็นกลุ่มที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงานซึ่งออกจากราชการแล้ว ที่อาจจะมีเสื้อลายพรางในลักษณะนี้
ในด้านของผู้เสียหาย นอกจากจะมีการนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ได้สั่งการให้ทำการคุ้มครองผู้เสียหายเพราะถือเป็นคนที่สามารถชี้ตัวผู้ต้องหาได้เมื่อเจ้าหน้าตำรวจนำผู้ต้องสงสัยมา ส่วนกรณีที่สื่อได้นำภาพคนร้ายลงไปแล้วนั้น หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสก็ให้แจ้งมาได้ยังตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ดังนั้นในระยะนี้จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวและเชื่อว่าหากปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนก็จะสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
Cr. หนังสือพิมพ์เสียงภูพาน
แหล่งข่าวจาก ข่าวชัดประเด็นจริง http://www.khaochad.com/48856/?r=1&width=1600