ศบค.แถลงรอบบ่าย ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศ 65 คน

ศบค.แถลงรอบบ่าย ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศ 65 คน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงความคืบหน้าล่าสุด สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุด ศูนย์กลางการแพร่ระบาด ยังอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง ซึ่งทีมปฎิบัติการสอบสวนโรค ได้ขยายวงการสอบสวนโรคจากตลาดกลางกุ้งไปยังรัศมี 2 กิโลเมตร ได้แก่ ชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13 , ตลาดทะเลไทย , เซ็นทรัลมหาชัย , ชุมชนเดิมบางสาม , ตลาดมหาชัย , สะพานปลา(ไทย) , ชุมชนบ้านเอื้ออาทรท่าจีน , ชุมชนนาดี , ตลาดโกรกกราก และชุมชนวัดบัณฑูรย์

ขณะที่การพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติมในจังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 1-22 ธ.ค.63 และเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ข้อมูล ณ เวลา 14.00 น. วันนี้ (23 ธ.ค.63) พบผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด 65 คน แบ่งเป็น

          กรุงเทพฯ 16 คน
นครปฐม 10 คน
ฉะเชิงเทรา 6 คน
สมุทรปราการ 5 คน
สระบุรี 5 คน
ปทุมธานี 3 คน
กำแพงเพชร , นนทบุรี , ปราจีนบุรี , อยุธยา จังหวัดละ 2 คน
กระบี่ , ขอนแก่น , โคราช , เพชรบุรี , เพชรบูรณ์ , ภูเก็ต , อุตรดิตถ์ , สุราษฎร์ธานี , สุพรรณบุรี , นครศรีธรรมราช , ประจวบคีรีขันธ์ และชัยนาท จังหวัดละ 1 คน


สำหรับแรงงานต่างชาติที่ถูกกักตัวอยู่ในพื้นที่ควบคุมตลาดกลางกุ้ง ขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์จากสถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลสมุทรสาคร ตั้งโรงพยาบาลสนาม ดูแลด้านสุขภาพ สุขอนามัย ให้ความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาด รวมทั้งแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่มและสิ่งจำเป็นให้กับแรงงานดังกล่าวแล้ว

ด้าน พญ.วลัยลักษณ์ ไชยฟู รักษาการนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นผู้ลงพื้นที่ไปดูแลและติดตามการสอบสวนโรคที่จังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า นับตั้งแต่พบการระบาดของผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.63 เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง ได้วางแผนตรวจสอบคัดกรองโรคในเชิงรุก โดยข้อมูล ณ วันที่ 23 ธ.ค.63 มียอดการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งหมด 9,451 คน ส่งตรวจหาเชื้อทางห้องปฎิบัติการ (Lab) 6,314 คน พบผู้ติดเชื้อ 1,202 คน ศูนย์กลางการระบาดคือตลาดกลางกุ้ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็แรงงานต่างชาติ ผู้ป่วยไทยส่วนใหญ่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และมีบางคนที่ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ป่วยในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด นอกนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจอีกบางส่วน

โดยกลุ่มผู้ป่วยที่ไปรับการรักษาเองที่โรงพยาบาล ขณะนี้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงได้ครบแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่เจ้าหน้าที่คัดกรองตรวจสอบในเชิงรุก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหอพักศรีเมือง ซึ่งมีแรงงานต่างชาติจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กำลังหาวิธีจัดการคัดแยกผู้ป่วยกับผู้ไม่ป่วยออกจากกัน ซึ่งยอมรับว่าอาจเกิดปัญหาความแออัด จนทำให้ติดเชื้อเพิ่ม แต่จุดนี้ มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มที่อยู่นอกจังหวัดสมุทรสาคร ก็เข้ารับการรักษาในจังหวัดที่อาศัยอยู่

สำหรับผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ ตลาดกลางกุ้ง ตลาดทะเลไทย ตลาดมหาชัย และชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13 ให้รายงานตัวและขอรับการตรวจหาเชื้อได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนผู้อาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่ไม่ใช่ในพื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่เสี่ยง ให้สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้ ปวดเมื่อย ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น สามารถขอรับการตรวจหาเชื้อได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนผู้ที่อยู่นอกจังหวัดสมุทรสาคร แต่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำธุระที่สมุทรสาคร สามารถเดินทางไปได้ เพราะจังหวัดไม่ได้ห้ามเดินทางเข้า-ออก เพียงแต่ต้องผ่านด่านคัดกรองวัดไข้ และต้องป้องกันตัว ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆที่พบผู้ป่วย ก็ยังสามารถเดินทางไปธุระหรือท่องเที่ยวในจังหวัดนั้นได้ เพียงแต่ต้องปฎิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ขณะที่นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร แถลงเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (23 ธ.ค.63) สรุปผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่มขึ้น121 คน

“ยูเออี”ฉีดวัคซีนโควิดของ”ไฟเซอร์”  วันนี้

รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เปิดเผยว่า นครดูไบ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของประเทศ จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคให้ประชาชนฟรีตั้งแต่วันนี้ โดยเป็นประเทศอาหรับต่อจากซาอุดีอาระเบียซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เริ่มใช้วัคซีนนี้

คณะกรรมการสูงสุดด้านการบริหารจัดการวิกฤตการณ์และภัยพิบัติเมืองดูไบ ระบุในแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ว่า “โครงการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม” เพื่อต่อต้านโควิด-19 จะเริ่มในดูไบในวันนี้โดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและไม่มีค่าใช้จ่าย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อต้นเดือนนี้ ยูเออีและบาห์เรนได้ใช้งานวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทเภสัชภัณฑ์ไชน่า เนชันนัล ไบโอเทค กรุ๊ป (CNBG) ในเครือซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ของจีนกับประชาชนทั่วไป

ยูเออีเป็นประเทศแรกที่ฉีดวัคซีนจากจีนให้กับประชาชน โดยระบุว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 86% โดยอ้างถึงผลการวิเคราะห์เบื้องต้นจากการทดสอบทางคลินิกขั้นสุดท้าย

นอกจากนี้ กาตาร์ยังอนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคเป็นกรณีฉุกเฉิน ขณะที่โอมานจะได้รับการจัดส่งวัคซีนจากไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคชุดแรกในวันนี้

อินเดียจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเดือนมกราคมปีหน้า

นายแพทย์หรรษ วรรธน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดีย ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า รัฐบาลอินเดีย อาจเริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับชาวอินเดีย ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า โดยประชาชนที่จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก จำนวน 300 ล้านคน ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ดูแลด้านสุขอนามัย รวมถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยง และบุคคลที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาการอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วยวัคซีนของบริษัท ภารัต ไบโอเทคของอินเดีย บริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯ และบริษัท แอสตราเซเนกา ของอังกฤษ ขณะที่ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินเดีย มากกว่า 10,075,000 คน และมียอดผู้เสียชีวิตประมาณ 146,000 คน

มาเลเซียเล็งซื้อวัคซีนเพิ่มจากรัสเซีย-จีน-ไฟเซอร์ หวังเพิ่มวัคซีนสำรองในประเทศ

มาเลเซียอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อวัคซีน Sputnik V วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยรัสเซีย จำนวน 6.4 ล้านโดส และต้องการเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เนื่องจากมาเลเซียต้องการเพิ่มปริมาณวัคซีนสำรองในประเทศเพื่อรับมือการแพร่ระบาด

มาเลเซียใช้เงินประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ในการซื้อวัคซีนให้เพียงพอต่อประชาชน 26.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 82.8% ของทั้งประเทศ โดยได้ซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ของสหรัฐ และแอสตร้าเซนเนก้าของอังกฤษแล้ว และคาดว่าจะซื้อวัคซีนเพิ่มจากบริษัทจีนและรัสเซีย รวมถึงวัคซีนที่จะได้รับผ่านทางโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO)

สำหรับวัคซีนของจีนนั้น มาเลเซียกำลังเจรจากับ Sinovac Biotech และ CanSino Biologics เพื่อซื้อวัคซีนจากบริษัทเหล่านี้

ไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมาเลเซียกล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียได้เพิ่มเป้าหมายการจัดหาวัคซีน เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่วัคซีนบางตัวอาจไม่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล หรือผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบได้

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข่าวจาก- ข่าวบ้านเมือง   https://www.banmuang.co.th/news/politic/217010

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *