แฉคนร้ายแต่งกายคล้ายทหาร 4 นาย ดักปล้นสะท้านเมืองมุกฯ ซิ่งหลบด่านนิคมคำสร้อย ก่อนขับรถประกบหน้าหลังอาวุธครบมือ กวาดเงินชาวสวนยางหนีลอยนวล สองล้านบาท ด้านผู้การฯ สั่งไล่ล่าพลิกแผ่นดินเช็คทุกเส้นทางคาดเป็นคนรู้จักชี้เป้าตามประกบผู้ต้องสงสัย
จากกรณีคนร้าย 4 คนเป็นชายฉกรรจ์ แต่งกายคล้ายทหาร 4 คน ขับรถเก๋งสีดำ ตามประกบรถ นายไพศาล อุคำ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 19/20 หมู่ที่ 6 ตำบลกกแดง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกหาหาร แล้วทำการปล้นเงินไปจำนวน 2 ล้านบาท โดยเหตุเกิดที่ถนนสายบ้านคำบง-ม่วงไข่ หมู่ที่ 4 ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ต่อเนื่องถนนรอบวนอุทยานแห่งชาติภูหมู หมู่ที่ 5 ซึ่งห่างจากสถานีตำรวจนิคมคำสร้อยเพียง 500 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2559 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร , พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.อัครชัย ดลโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร , พ.ต.อ.รณรงค์ นาคทั่ง ผกก.สภ.นิคมคำสร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ไปตรวจที่เกิดเหตุ โดยนำ นายไพศาล อุคำ ผู้เสียหายไปชี้เกิดเหตุ จำนวน 2 จุด โดยจุดแรกเป็นจุดที่ปล้น ตรงถนนสายบ้านคำบง-ม่วงไข่ หมู่ที่ 4 ตำบลโชคชัย และจุดที่สอง คือจุดที่นำผู้เสียหายมาทิ้ง ตรงอุทยานภูหมู
พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายไพศาล อุคำ ผู้เสียหาย เบื้องต้นทราบว่า มีอาชีพทำธุรกิจสวนยาง รับซื้อน้ำยาง ภายในจังหวัดมุกดาหาร เหตุเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2559 เวลาประมาณ 12.30 น. ได้ขับรถอีซูซุมิวเอกซ์ ไปเบิกเงินสดที่ธนาคารกรุงไทย สาขา นิคมคำสร้อย เป็นเงิน 2 ล้านบาท เพื่อมารับซื้อน้ำยางตามปกติ แต่เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น. ได้ขับรถออกมาจากธนาคารฯ จนผ่านหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอนิคมคำสร้อย พอมาถึงจุดเกิดเหตุที่มีรถเก๋งซีวิคสีดำ ได้ขับเข้ามาขับปาดหน้ารถของตน ด้วยความตกใจเนื่องจากเกรงว่ารถจะชนกันจึงได้จอด จากนั้นได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คนเดินลงรถมา และทั้งสามคนแต่งกายคล้ายทหาร แต่ไม่ติดเครื่องหมาย หรือชื่อหรือตำแหน่งหน้าที่การงาน ที่ 2 คน ได้ถือปืนพกสั้น ชี้ขึ้นฟ้า กับอีก คนได้หันอาวุธปืนตรงเข้ามาที่ผู้เสียหาย แล้วอีกคนก็เดินมาเคาะกระจกรถเพื่อเรียกตัว และทันทีที่เปิดประตู คนร้ายก็ได้ปลดล็อคประตู จากนั้นก็ได้กระชากผู้เสียหายออกมานอกรถ โดยบอกว่าต้องการตรวจสอบ จากนั้นก็ได้พากันจับมัด และเนื่องจากผู้เสียหายเกรงว่าจะถูกฆ่า จึงได้ดิ้นต่อสู้ ก่อนที่จะถูกด้ามปืนฟาดเข้าที่กกหู แล้วถูกจับล็อคด้วยกุญแจมือ ขึ้นรถของผู้เสียหาย โดย ชายฉกรรจ์เข้าคุมซ้ายขวา ด้านหลัง และมีอีกคนเป็นคนขับ เมื่อไปถึงจุดที่สอง ก็ได้นำกุญแจมือไปล็อกกับแกนหมอนรองคอด้านผู้โดยสาร ก่อนจะเชิดเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท หลบหนีไป
พล.ต.ต.อภิชิต กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน และ พ.ต.อ.อัครชัย ดลโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร เป็นหัวหน้าทีมสอบสวน ร่วมกันแกะรอยคนร้าย และเท่าที่สอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่าไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักกับคนร้าย แต่เหตุการณ์นี้จะต้องมีคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายว่าในแต่ละวันไปทำอะไร และมีเงินมากขนาดไหน นอกจากนี้ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่วิทยาการ ลงพื้นที่เก็บรอยนิ้วมือแฝงภายในรถ
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้ประสานไปยังด่านชายแดนในการสกัดคนร้ายที่เกรงว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำการเร่งไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
Cr. หนังสือพิมพ์เสียงภูพาน
แหล่งข่าวจาก ข่าวชัดประเด็นจริง http://www.khaochad.com/48693/?r=1&width=1600