(คลิป) อนุทิน”นำความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรี จนท./ปชช. จ.เชียงราย ร่วมกันป้องกันโควิด-19 ควบคุมสถานการณ์เอาอยู่ ด้านชายแดนแม่สาย
https://www.youtube.com/watch?v=86W9raEsVus
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จ.เชียงราย ด้านอำเภอแม่สาย นำความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรี ถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ – ประชาชน ให้ร่วมกันป้องกันโรคโควิด19 ยืนยันระบบมาตรการป้องกันควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ นำผู้ติดเชื้อส่งรักษารวดเร็ว ค้นหาผู้ที่สัมผัสครบตามแผนป้องกันควบคุม ขอประชาชนเข้าเมืองแบบถูกต้อง ไม่ปกปิดประวัติเสี่ยง ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง เที่ยวเชียงรายปลอดภัย
วันนี้ 8 ธันวาคม2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรคและคณะ โดยมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย – พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กกล.ผาเมือง – นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย และหน่วยหน่วยงานภาครัฐ ให้การตอนรับและรายงานสถานการณ์การป้องกันควบคุมโรคติดต่อโควิด-19
ในการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ ด่านพรมสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ด้าน อ.แม่สาย พร้อมตรวจสถานที่กักกัน (Local Quarantine) โรงแรมแม่โขงเดลต้าและยังเยี่ยมสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด
ด้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ในวันนี้ได้นำความห่วงใยของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาให้เจ้าหน้าที่ ประชาชนในพื้นที่ จากเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้ลักลอบเข้าเมืองมาจาก อ.ท่าขี้เหล็ก นำเชื้อโควิด 19 เข้ามาในประเทศไทย มั่นใจว่าเรามีศักยภาพเพียงพอที่ดำเนินการควบคุมป้องกันโรค ไม่ถือว่าเป็นการแพร่ระบาด ขอให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมั่นใจถึงประสิทธิภาพของระบบการป้องกันควบคุมโรคของ จ.เชียงราย และของประเทศไทย ที่สามารถตรวจจับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ได้รวดเร็ว นำเข้าระบบการรักษาทันที พร้อมติดตามผู้สัมผัสได้อย่างครบถ้วน ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ไม่กระจายไปในวงกว้าง ข้อมูลล่าสุด 8 ธันวาคม2563 มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจาก อ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ 17ราย มาทางจุดผ่านแดนและเข้าสถานที่กักกัน 27ราย และเป็นผู้สัมผัสในไทยอีก 2ราย รวมเป็น 46ราย รับไว้รักษา ที่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา กทม.พิจิตรและราชบุรี
สำหรับการดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เชิงรุกในพื้นที่ดำเนินการทั้งในพื้นที่ จ.เชียงราย –เชียงใหม่ ด้วยรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยรถพระราชทาน 3 คัน ระหว่างวันที่ 2-8ธันวาคม2563 จำนวน 4,228ราย ได้ผลลบทั้งหมด ส่วนการคัดกรองผู้เดินทางผ่านด่านควบคุมโรคแม่สาย ผู้เดินทางทั้งไทยและเมียนมาสะสม ตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2563 จำนวน 13,098 ราย ในด้านการเตรียมพร้อมรองรับผู้เดินทางกลับจากท่าขี้เหล็ก จ.เชียงราย มีสถานที่กักกัน 9 แห่ง รองรับได้ 550คน ขณะนี้มีผู้กักกันคงเหลือ 169 คน ส่วนห้องแยกความดันลบ อุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์ มีสำรองไว้อย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ ได้สั่งการให้ดำเนินการดังนี้ 1.ประสานฝ่ายความมั่นคง ยกระดับการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ทั้งช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศและช่องทางธรรมชาติ 2.เปิดช่องทางพิเศษรับคนไทยกลับจากท่าขี้เหล็ก ให้ด่านฯ สามารถอนุญาตให้เข้ามาได้เลย 3.ให้ อสม.เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่ โดยให้ผู้ที่เดินทางมาจากท่าขี้เหล็กเดือนพฤศจิกายน มารายงานตัวและรับการตรวจคัดกรองทุกคน 4.ตรียมความพร้อมบริหารจัดการทรัพยากร ยกระดับการจัดการหากมีผู้ป่วยมากขึ้น 5.เพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกันควบคุมโรคในสถานประกอบการ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค และ6.การให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน ป้องกันการเกิดข่าวปลอม –ข่าวลวง ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก
“ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งด้านการรักษา ทีมสอบสวนโรค ยา เวชภัณฑ์ ขอประชาชนร่วมมือไม่ปกปิดประวัติเสี่ยง คาดว่ามีพี่น้องเราไปทำงานที่ท่าขี้เหล็กไม่เกิน 500คน เข้ามาแล้วบางส่วน ที่เหลืออีกไม่มาก ให้เข้ามาแบบถูกต้อง หากป่วยจะได้รับการรักษาทันที ไม่แพร่โรคให้ครอบครัวคนใกล้ชิด ไม่กระทบต่อระบบป้องกันควบคุมโรค เศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวของประเทศ และแน่นย้ำที่สำคัญต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างตามความจำเป็น ช่วยไม่ให้โรคโควิด 19ระบาดซ้ำ” นายอนุทินฯ กล่าว
สำหรับภาพรวมเขตสุขภาพที่ 1 มีทรัพยากร อาทิ ห้องแยกความดันลบ 215 ห้อง ห้องแยกโรค 304ห้องเตียงICUและNICU 517 เตียง โรงพยาบาลสนามอีก 1,741เตียง (กรณีมีการระบาด) มีสถานที่กักกัน 29 แห่งรองรับได้ 2,083 คนหน้ากากอนามัย มี 5.1ล้านชิ้น N95 จำนวน 5 หมื่นกว่าชิ้น Face shield 1.2แสนชิ้น Cover all 6.5หมื่นชุด เสื้อกาวน์กันน้ำ 2.9 หมื่นชุด ถุงมือยาง1.8ล้านชิ้น เป็นต้น เพียงพอต่อการใช้งานมากกว่า 3เดือน
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ – ต้อม มหาสิงห์ – สายฝนลุ่มแม่น้ำสาย ข่าวแม่สายนิวส์ออนไลน์ ///////////// รายงาน //////////////////