(คลิป) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดงานครบรอบ 30 ปี ศูนย์ลูกหญิงแม่สาย
https://www.youtube.com/watch?v=A4hw5BPwSao&t=169s
วันที่ 15 พ.ศ. 2563 เวลา 10.00 น. ณ อาคารสายสุรี จุติกุล ศูนย์พัฒนาการศึกษาเพื่อลูกหญิงและชุมชน บ.ผาแตก ม.10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยฯพณฯท่าน นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานครบรอบ 30 ปี ศูนย์ลูกหญิงแม่สาย พร้อมนายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียง นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต สว.จังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย พล.ต.สุวิทย์ วังยาว พระครูปิยวรรณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย อ.พาน จ.เชียงราย พระอาจารย์สมหมาย จันทร์หลวง เจ้าอาวาสวัดกิ่วพร้าว อ.แม่จัน จ.เชียงราย หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่ อ.แม่สาย ซึ่งในปัจจุบันเด็กและเยาวชนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย อันเกิดจากสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่อันตรายรอบตัว เด็กและเยาวชนจำนวนมากซึมซับพฤติกรรมความรุนแรง สื่อลามกอนาจารเสพยาเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อยู่ในแหล่งมั่วสุม และปักใจอื่นๆ จนพฤติกรรมเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่ง
ของชีวิตร่วมสมัยเด็กและเยาวชนที่เติบโตเป็นอานาคตของชาติ โดยปัญหาเด็กและเยาวชนสามารถจําแนกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1. ปัญหาที่เกิดจากความยากจน และด้อยโอกาสทั้งที่มีมาแต่กำเนิด หรือผลสืบเนื่องมาจาก
ครอบครัว หรือถูกกระทำจากบุคคลหรือสังคม กลุ่มที่ 2 ปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น เรื่องเพศสัมพันธ์ ติดเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด ทะเลาะวิวาท ฆ่าตัวตาย เล่นการพนัน เที่ยวเตร่สถานบันเทิง ติดเกมส์ อินเตอร์เน็ตเข้าถึงสื่อลามกอนาจารหรือสื่อที่แสดงความรุนแรงและขับรถเร็ว ซึ่งหากวิเคราะห์ปัญหาต่างๆแล้ว จะพบว่าในสังคมปัจจุบันสิ่งแวดล้อมต่อตัวเด็กและเยาวชนนั้น ได้กลืนเขาเข้าสู่สังคมยุคปัจจุบัน ยุคแห่งการแข่งขันโดยที่เด็กและเยาวชนบางคนไม่สามารถแยกได้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด แก้ปัญหาเบื้องต้นไม่ได้ เหงา เศร้า บางรายมีชีวิตอยู่เพียงผู้เดียว ไม่รู้จะปรึกษาใคร ทำให้เขาต้องกระทำในสิ่งที่ตนเองอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้
ทางด้าน นายสมภพ จันทรากา ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการศึกษาเพื่อลูกหญิงและชุมชน ได้รายงานให้ทราบว่า ศูนย์พัฒนาการศึกษาเพื่อลูกหญิงและชุมชน แห่งนี้ได้ก่อตั้งและดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชนมายาวนานถึง 30 ปี โดยมุ่งเน้นการทำงานด้านการป้องกัน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและต้นทาง โดยเริ่มที่การศึกษาเป็นหลัก เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้ เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิ โอกาสทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ อันเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้กับเด็กกลุ่มเสี่ยงและเปราะบางทางสังคม ตลอดจนให้การคุ้มครอง ช่วยเหลือ บำบัดฟื้นฟู เยียวยา พัฒนา และส่งกลับคืนสู่สังคม อีกทั้งได้จัดให้มีการอบรมเยาวชนแกนนำที่องค์กรทำงานด้านเด็กในประเทศอนุภาคลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศคัดเลือกส่งเข้าอบรม เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อกลับไปทำงานเครือข่ายป้องกันที่ประเทศต้นทาง
