ไม่พลิกเลือกตั้งเมียนมา! พรรคซีจีนำห่าง ทหารยันพร้อมยอมรับ รัฐฉานพรรคไทใหญ่นำ
วันที่ 9 พ.ย.2563 สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานบรรยากาศการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤตโรคโควิด-19 และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดี อู วิน มินต์ ภายใต้อำนาจของนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรมว.ต่างประเทศ ถึงอย่างนั้นประชาชนจำนวนมากออกมาลงคะแนนกันอย่างคึกคัก และส่วนมากปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ ภายหลังผู้ป่วยใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มียอดสะสมเพิ่มเป็น 60,348 คน และเสียชีวิต 1,396 ราย ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) จะคว้าชัยชนะได้เป็นรัฐบาลในสมัยที่ 2
ขณะที่พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปลงคะแนนที่เขตเลือกตั้งในกรุงเนปิดอว์ กล่าวสั้นๆ กับนักข่าวว่า “เราจะยอมรับผล” ก่อนหน้านี้กองทัพโจมตีรัฐบาล พรรคเอ็นแอลดี และคณะกรรมการการเลือกตั้งพม่า โดยอ้างว่าได้รับแจ้งว่าการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าส่อเค้าทุจริต รวมทั้งข่มขู่ว่าจะเดินหน้าผลักดันกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีด้วย
ขณะที่ผลการลงคะแนนที่รัฐฉานปรากฏว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติรัฐฉานเพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities League for Democracy) โดยมีหัวเสือเป็นโลโก้พรรค เป็นพรรคการเมืองในรัฐฉาน มีสมาชิกเป็นทั้งชาวไทใหญ่และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในรัฐฉาน เช่น ชาวปะหล่อง ชาวปะโอ เป็นพรรคการเมืองของชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่พรรคหนึ่งในพม่า ในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2533 ได้ 23 ที่นั่ง มีคะแนนนำพรรคอื่นๆ
แม้ช่วงหาเสียงจะเกิดการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับทหารไทใหญ่ที่เมืองจ๊อกเมร์ รัฐฉานภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.และมีการหยุดยิงหลังจาก กกต.เมียนมาได้ประกาศพื้นที่รัฐฉานไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้จำนวน 6 เขตการเลือกตั้ง ทำให้ ส.ส.จากรัฐฉานลดไปอีก 6 คน
ผู้นำแรงงานในไทยหวังแก้รธน.ถอดกองทัพออกจากสภา
การลงคะแนนเลือกตั้งนั้น ได้มีชาวเมียนมาทั้งชนกลุ่มน้อย และประชาชนทั่วไปไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันมาก ทำให้การนับคะแนนช้ากว่าครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาที่จังหวัดเมียวดี คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องใช้เวลานานมากในการนับคะแนนตลอดทั้งคืน และมีมาตรการป้องกันการทุจริตที่ดีขึ้น โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมือง และผู้สมัคร ไปนั่งสังเกตการณ์ ซึ่งผลการเลือกตั้งในพื้นที่ชายแดน พรรคเอ็นแอลดี.หรือ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซาน ซูจี ยังคงมีคะแนนนำในหลายพื้นที่ ทั้งในรัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชาวเมียนมาให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมาก แม้นจะเกิดสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดอยู่ก็ตาม
นายโมโจ ผู้นำองค์ช่วยเหลือแรงงานสัญชาติเมียนมาในประเทศไทยกล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่า แรงงานเมียนมาทั้งหมดในประเทศไทย และประเทศเมียนมา ได้ลงคะแนนให้กับพรรคเอ็นแอลดี.ทั้งหมดในช่วงที่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า เนื่องจากนางอองซาน ซูจี เคยเดินทางมาประเทศไทย และไปพบปะแรงงานเมียนมา และมีพรรคเอ็นแอลดี.เท่านั้น ที่เป็นความหวังของชาวเมียนมาในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย
นายโมโจกล่าวด้วยว่า การเลือกพรรคเอ็นแอลดี.ครั้งนี้ ชาวเมียนมามีความมั่นใจ และคาดหวังว่า พรรคเอ็นแอลดีจะเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญ ให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เช่น การลดจำนวนตัวแทนฝ่ายทหารที่มีในสภาผู้แทนราษฎรร้อยละ 25 ให้มีจำนวนลดลง หรือไม่มีเลย เพราะไม่มีประเทศประชาธิปไตยประเทศไหนทำกัน และ เชื่อว่า พรรคเอ็นแอลดี.จะเข้าไปพัฒนาประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งประเทศเมียนมามีประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้าน และมีการค้าขายตามแนวชายแดน เชื่อว่าจะพัฒนาด้านการค้าชายแดนให้ดียิ่งขึ้น