สิ้นใจแล้ว “ดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง” แผลติดเชื้อรุนแรง คาดถูกตะขาบกัด
จากกรณีนายจำเนียร มูลเกษร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.10 บ้านดงบ่อ ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หรือ ดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง อดีตนักมวยไทยชื่อดังค่าตัวเงินแสนได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งญาติระบุว่า ถูกแมลงไม่ทราบชนิดกัดที่บริเวณต้นขาซ้าย มีอาการหนาวสั่น เวียนหัว และเป็นไข้ ซึ่งอาการโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารพักศพโรงพยาบาลกาฬสินธุ์นางสาวจิราภรณ์ มูลเกษร อายุ 27 ปี และนางสาวจารุวรรณ มูลเกษร อายุ 22 ปี ลูกสาว พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้เดินทางมารับศพนายจำเนียร มูลเกษร อายุ 52 ปี หรือ ดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง หลังจากเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 07.26 น.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความโศกเศร้า พร้อมกับขอบคุณแฟนมวย และผู้ใจบุญที่ช่วยเป็นกำลังใจและช่วยค่ารักษา
นางสาวจิราภรณ์ มูลเกษร อายุ 27 ปี กล่าวว่า หลังจากพ่อมีการโคม่าตลอดทั้งคืนล่าสุดก็เสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุทราบว่าถูกแมลง และเบื้องต้นเท่าที่สอบถามพ่อน่าจะเป็นตะขาบกัดแล้วปล่อยไว้หลายวันจนแผลติดเชื้อแล้วเข้ามารักษา กระทั่งมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ประกอบกับมีโรคประจำตัวเบาหวานจึงเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนและญาติขอขอบคุณแฟนมวย และผู้ใจบุญทุกคนที่คอยให้กำลังใจและส่งเงินมาช่วยเหลือ ซึ่งจะนำไปเป็นค่าจัดงานศพพ่อ โดยญาติตกลงกันว่าจะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 142 บ้านหัน ต.เขวา อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อ และได้สั่งเสียไว้ว่าหากเสียชีวิตให้นำกลับบ้านเกิด
ด้านนายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในครั้งนี้ และวงการมวยที่สูญเสียบุคลากรที่ทรงคุณค่า สำหรับโรคที่ดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง ที่เป็นในครั้งนี้ จากการสันนิษฐานน่าจะมีแผลที่บริเวณต้นขาซ้าย และจากตรวจสอบประวัติมีแมลงกัด ซึ่งทราบจากญาติคาดว่าน่าจะถูกตะขาบกัด ซึ่งโรคนี้หากมีแมลงกัดต่อยและอยู่ในบริเวณที่สามารถติดเชื้อง่าย เชื้อก็จะเข้าไปในร่างกาย โดยจะเข้าไปในใต้ผิวหนังก่อนและรุกลามเข้าไปภายใน ทั้งนี้เนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้นผู้ป่วยเป็นแผลมาหลายวันจนลุกลามจากต้นขาบริเวณเหนือเข่ามาจนถึงขาหนีบทำให้เชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลแล้วแพทย์ได้ทำการผ่าตัดนำส่วนเนื้อที่อักเสบออก พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเชื้อรุนแรงและเข้าไปในกระแสเลือด แพทย์จึงะยายามให้ยากระตุ้นหลอดเลือด ให้ยาสารน้ำ และยาปฏิชีวนะที่ดีที่สุดแล้ว แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีอายุมาก และมีโรคประจำตัวเบาหวานและโรคตับด้วยจึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข่าวจาก-ข่าวบ้านเมือง https://www.banmuang.co.th/news/region/208374