‘ดีอี-กสทช.’เทคแอ๊คชั่น ลุยล้างบาง‘เว็บพนันออนไลน์’ – รายงานพิเศษ
กระทรวงดีอี-กสทช. ผนึกกำลังรุกเข้มปราบเว็บพนันออนไลน์ เผยที่ผ่านมาสั่งปิดแล้วกว่า 1,200 เว็บไซต์
ความง่าย และการเข้าถึงได้สะดวกของโลกแห่งความทันสมัยในยุคออนไลน์แม้ทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น พร้อมขับเคลื่อนทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วหากนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ในทางกลับกันจะกลายหลุมพลางให้กับนักฉวยโอกาสในการสร้างช่องทางผิดๆ ที่ก่อให้ปัญหามากมายตามมา
ที่เห็นชัดเจนและเป็นประเด็นใหญ่ในช่วงที่ผ่านมากรณีข่าวดังที่เกิดขึ้นจากการ “พนันออนไลน์”
ปัญหาพนันออนไลน์เกลื่อนเมืองเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว จำนวนยอดนักพนันพุ่งขึ้นจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะปัจจุบัน เด็ก เยาวชน มีสมาร์ตโฟน สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ อย่างง่ายดาย แม้ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตระหนัก และหาทางป้องกัน แต่แอ็คชั่นปัญหาเป็นระยะๆ ขาดความจริงจังและต่อเนื่อง
กระทั่งเกิดกรณีของคนดังในสังคม ประกอบกับการเปิดเผยข้อมูลในงานเสวนาจัดโดยกลุ่มสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และเครือข่ายเยาวชนรวม 6 เครือข่าย เกี่ยวกับผลสำรวจพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน กับการใช้สื่อออนไลน์ในช่วงโควิด-19 พบว่า ช่องทางที่พบเห็นโฆษณาให้เล่นพนัน เป็นเฟซบุ๊กมากที่สุด 76.53% รองลงมาคือเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันดูหนังฟังเพลง เล่นเกม 70.64% และไลน์ 32.50%
เป็นเรื่องที่เป็นห่วง กับสถานการณ์การพนันออนไลน์ที่กำลังลุกลาม และใกล้ตัวเข้ามาทุกที ทำให้เกิดแอ็คชั่นจากผู้กำกับดูแล 2 หน่วยงานหลัก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
เมื่อต้นเดือนก.ย. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานการประชุมหารือแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ระหว่าง กสทช. กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่(โอเปอร์เรเตอร์) เรื่องการระงับการเข้าถึงเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เพื่อหาแนวทางความร่วมมือแก้ปัญหานี้ที่แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง
“กระทรวงฯ ตระหนักถึงปัญหาการพนันออนไลน์มีผลกระทบมากมาย ทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสร้างความเดือดร้อนแก่คนในครอบครัว ด้วยเหตุนี้ ได้หารือกับผบ.ตร. และ ผอ.ศปอศ.ตร.ในการปราบปรามและทำการสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุม” นายพุทธิพงษ์กล่าว
หลังจากกระทรวงฯ ประสานงานและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการจับกุมพนันออนไลน์กว่า 20 รายใหญ่ทั่วประเทศ วงเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การพนันฯ และได้ส่งคำสั่งศาลไปแล้ว 982 คำสั่งปิดเว็บไซต์การพนันในครั้งแรก และล่าสุดเพิ่มเติมอีก 220 เว็บไซต์ ที่เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.การพนัน ดังนั้นจนถึงล่าสุดมีคำสั่งศาลสั่งปิดเว็บพนันออนไลน์แล้ว 1,202 เว็บไซต์
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาคำสั่งศาลที่ส่งเป็นหนังสือแจ้งเตือนไอเอสพี และโอเปอเรเตอร์ ผ่านไปกว่า 15 วัน ตามกำหนดของศาลแล้ว พบว่ายังมีโอเปอร์เรเตอร์ บางรายไม่ให้ความร่วมมือปิดเว็บพนันออนไลน์ตามที่แจ้งคำสั่งศาล จึงอยากให้ชี้แจงว่าเพราะเหตุใดถึงยังไม่สามารถดำเนินการปิดได้ หากไม่ชี้แจงมาหลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเป็นต้องเอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 27
ด้านทางกสทช.ระบุว่า หากผู้ให้บริการท่านใดถูกตำรวจดำเนินคดี ทางกสทช.จะว่ากล่าวตักเตือน และเพิกถอนใบอนุญาตกับผู้ให้บริการรายนั้นๆอีกด้วย
ขณะเดียวกันรมว.พุทธิพงษ์ ขอความร่วมมือจากไอเอสพีและโอเปอเรเตอร์รายใดดำเนินการปิด หรือปิดกั้นการเข้าถึงเว็บพนันออนไลน์ที่มีคำสั่งศาลออกมาแล้ว ช่วยเชื่อมโยงการอัพเดทเข้าสู่หน้า Landing page ด้วย
การแก้ไขปัญหาพนันออนไลน์ ต้องมีการบูรณาการเพื่อร่วมกันออกมาตรการในการแก้ไขปัญหา ปัจจุบันการพนันออนไลน์ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ และผู้ที่ทำการโฆษณาหรือชักชวนผู้อื่นเล่นพนัน มีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (แก้ไข พ.ศ. 2560) มาตรา 20 (3) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบัน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในมาตรา 20 ไม่ได้ให้อำนาจกระทรวงในเรื่องนี้ แต่ระบุให้ต้องมีหน่วยงานอื่นต้องมาแจ้งความก่อน และบทลงโทษต้องใช้กฎหมายอื่นมาประกอบ
พร้อมกันนี้ กระทรวงฯ เปิดช่องทางให้ประชาชนถ้าประชาชนในการแจ้ง หากพบเห็นสื่อโฆษณาหรือโพสต์ชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์ สามารถแคปหน้าจอ พร้อมแจ้ง link หรือยูอาร์แอลเว็บนั้นๆ ส่งมาโดยตรงที่เพจ “อาสา จับตา ออนไลน์”ทาง inbox คลิก m.me/DESMonitor มีเจ้าหน้าที่รับเรื่องตลอด 24 ชม. โดยจะนำข้อมูลเบาะแสส่งให้ตำรวจพิจารณาหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป ในส่วนของกระทรวงฯเมื่อได้รับการยืนยันความผิดจากตำรวจแล้ว ก็จะดำเนินการปิดเว็บไซต์พนันดังกล่าวต่อไป
ได้แต่หวังว่าจากนี้ไปการแอคชั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจริงจังและต่อเนื่อง เพราะในยุคที่การพนันออนไลน์เข้าถึงเหยื่อได้ง่ายขึ้น และสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้นผ่านช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์
เป็นเรื่องที่ถึงเวลาต้องเอาจริงเอาจังได้แล้ว!!!