สั่งย้ายแล้ว! ตร.คลิปฉาว ไถเงินหมื่นรถบรรทุก ลั่น! ถ้าผิดจริงฟันไม่เลี้ยง

สั่งย้ายแล้ว! ตร.คลิปฉาว ไถเงินหมื่นรถบรรทุก ลั่น! ถ้าผิดจริงฟันไม่เลี้ยง

ผู้การฯโคราช สั่งย้าย ดาบตำรวจ คลิปฉาว ไถเงินรถบรรทุก มาปฏิบัติงานในโรงพัก ลั่น ฟันไม่เลี้ยงตำรวจนอกรีต หากพบมีความผิดจริง

จากกรณีที่ชาวเน็ตมีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์ คลิปตำรวจ กำลังนับเงินและให้คืนกับชาวบ้านจำนวน 1,000 บาท โดยมีเสียงระบุว่าให้คืนเป็นค่าน้ำมัน อ้างว่า “จะบอกกับนายว่ารับมาเพียง 11,000 บาทเท่านั้น เพราะรู้สึกเห็นใจลูกหลานบ้านเดียวกัน” เหตุเกิดบริเวณร้านขายแตงโม ริมถนนสายขามทะเลสอ-ด่านขุนทด ซึ่งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของ สภ.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 23 ก.ย. พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ภายหลังจากที่ตนได้รับรายงานเรื่องนี้ ก็ได้ตรวจสอบคลิปในเบื้องต้น ทราบว่าคนที่อยู่ในคลิปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน ยศนายดาบตำรวจ ตำเเหน่งผู้บังคับหมู่ปราบปราม สภ.หนองสรวง โดยตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน พร้อมทั้งสั่งให้นายดาบตำรวจในคลิปคนดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม และให้มาปฏิบัติหน้าที่ภายในสภ.หนองสรวงแทน

พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา

พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา

พล.ต.ต.สุจินต์ กล่าวต่อว่า เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ทราบว่าผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สีคิ้ว ซึ่งเป็นคนละพื้นที่เกิดเหตุในคลิป ทั้งนี้นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเรียกรับเงิน หรือขูดรีดประชาชน ซึ่งตำรวจทุกนายเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ผู้การฯโคราช สั่งย้าย ดาบตำรวจ คลิปฉาว ไถเงินรถบรรทุก มาปฏิบัติงานในโรงพัก

ผู้การฯโคราช สั่งย้าย ดาบตำรวจ คลิปฉาว ไถเงินรถบรรทุก มาปฏิบัติงานในโรงพัก

พล.ต.ต.สุจินต์ กล่าวอีกว่า แต่อาจจะมีบ้างที่มีตำรวจนอกคอก ซึ่งก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดสำหรับตำรวจที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นต้องรอผลสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่าผิดจริงต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดแน่นอน

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข่าวจาก – ข่าวสด  https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4968606

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *