ตำรวจบุกทลาย ‘เครือข่ายค้ามนุษย์’ รายใหญ่ภาคเหนือเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า คาดมีทรัพย์สินกว่าพันล้าน เตรียมออกหมายจับนายทุนใหญ่ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน
พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภุธรภาค 5 เจ้าหน้าที่ทหารมทบ.33 และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างและจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์รายใหญ่ในภาคเหนือรวม 2 เครือข่าย คือ เครือข่ายแก๊งเฮียหลอ และ เครือข่ายบางแสน
โดยทั้งสองเครือข่ายได้เปิดสถานบันเทิงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่บังหน้า แต่เบื้องหลังนำเด็กและหญิงสาวมาค้าบริการทางเพศให้กับชายหนุ่มที่มีทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไป เข้าข่ายการค้ามนุษย์ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวกระทั่งทราบเบาะแส
และเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2559 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธร ภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำกำลังตรวจค้นที่ร้านคาราโอเกะโซไนท์ ตั้งอยู่ถนนศรีดอนชัย ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในร้านจำนวน 3 ราย จากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดถูกล่อล่วงและถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบว่าร้านคาราโอเกะแห่งนี้ มีร้านคาราโอเกะในเครืออยู่อีก 7 ร้าน เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจสอบร้านคาราโอเกะในเครือทั้งหมด พร้อมจับกุมผู้เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ในเครือข่ายของเฮียหลอมาดำเนินคดี อีกรายซึ่งอยู่ในเครือข่ายบางแสน เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนาย ไพฑูรย์ อังคปรีชาเศรษฐ์ อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวสุชญา ธรรมไชย อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ , น.ส.อัจฉรา ขัดแก้ว อายุ 31 ปี ภูมิลำเนาตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่
ในข้อหาร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ไดัรับอนุญาต ร่วมกันแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่นอันเป็นการค้ามนุษย์ และรับบุคคลต่างด้าวเขัาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าที่ร้านบางแสน 1 ตั้งอยู่บนย่านถนนเจริญราษฏร์ ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ลับลอบนำเด็กสาวแต่งกายวาบหวิวมาเต้นโชว์ให้แขกที่เข้ามาใช้บริการ เมื่อตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่อายุเพียง 17 – 18 ปีเท่านั้น
พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวว่า จาการตรวจสอบเครือข่ายแก๊งเฮียหลอ มีนายบุญสิทธิ์ รุ่งธนเกียรติ อายุ 61 ปีเป็นเจ้าของกิจการ ขณะนี้ได้มีการออกหมายจับจำนวน 3 หมายจับ และอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยเครือข่ายดังกล่าวจะใช้วิธีล่อลวงเด็กสาวที่เป็นชาวต่างด้าวหรือชาวเขาบน พื้นที่สูงมาทำงาน หรือใช้สื่อโซเชียลมีเดียล่อลวงมาว่ามีงานทำรายได้สูงเดือนละ 4 – 5 หมื่นบาท จนเหยื่อลงเชื่อ สุดท้ายเมื่อมาทำงานด้วยก็ถูกบังคับให้ขายตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของเครือข่ายค้า มนุษย์ทั้งสองแก๊ง ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจาก http://news.mthai.com/hot-news/general-news/521171.html