จากกรณีพบศพ น.ส.วรรณทนี อธิจร อายุ 29 ปี ชาวอ.นามน จ.กาฬสินธุ์ อาชีพบัสโฮสเตสรถทัวร์ สภาพศพเปลือย ถูกแทงด้วยของมีคมรวม 5 แผล เข้ากลางหน้าผาก หางคิ้วขวา ข้อมือซ้าย และหน้าอกอีก 2 แผล ภายในห้องอาคารที่พัก ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา พบร่องรอยการทะเลาะวิวาท ทำให้โต๊ะรีดผ้าล้ม ขณะที่เตารีดยังคงเสียบปลั๊กคาไว้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบห้องพักพบมีดปลายแหลม 2 เล่ม ความยาวประมาณ 1 ฟุต และมีคราบเลือดถูกล้างด้วยน้ำ ซุกซ่อนไว้ในกองผ้าห่ม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าเปิดเผยความคืบหน้าคดีฆ่าเปลือยสาวพนักงานประจำรถทัวร์คาห้องพื้นที่สน.ประชาชื่นว่า เบื้องต้นทางพล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 รายงานว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวแล้ว ยังอยู่ระหว่างการควบคุมตัวมาที่สน.ประชาชื่น โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย อย่างไรก็ตาม รายละเอียดว่าเป็นคนใกล้ชิดของคนตายหรือไม่ ต้องทำการตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุมาเช่าห้องอยู่ใกล้ผู้ตาย หลังก่อเหตุหลบหนีไป เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นมีจุดประสงค์อย่างไร เป็นเรื่องส่วนตัวหรือประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะสร้อยทองคำหนัก 1 บาท ของผู้ตายหายไป เป็นเรื่องที่ตำรวจจะต้องคลี่คลายและให้คำตอบชัดเจน
ส่วนผู้ต้องหารู้จักกับคนตายหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้แต่อย่างใด ผู้ก่อเหตุเข้าไปภายในห้องที่เกิดเหตุดังกล่าวได้อย่างไร ถ้าเปิดห้องให้แสดงว่ารู้จัก หากผู้ตายไม่ได้เปิดห้องให้หรือลืม แงมห้องไว้อาจจะไม่รู้จัก ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถนำตัวมาที่สน.ประชาชื่น ประมาณ 14.00 น.
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนขออนุมัติออกหมายจับนายอภิรักษ์ กระจายสี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ถ.พิชัย (ตัดใหม่) ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ตามหมายจับที่ 1797/2559 ข้อหาฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าชุดสีเหลืองที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ มีคราบเลือดติดอยู่ โดยจับกุมได้เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ระหว่างที่ผู้ต้องหาไปงานศพตาในวัดแห่งหนึ่ง ในอ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างสอบคำพร้อมกับควบคุมตัวไว้ที่สภ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อติดตามหาของกลาง ซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่หายไป
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายอภิรักษ์ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่าจะไปหาเพื่อนที่ห้องพักต้องการไปก่อเหตุลักทรัพย์ จากนั้นมาเช่าห้องพักรายวันอยู่ในที่เกิดเหตุดังกล่าวตั้งแต่เวลา 22.15 น.วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ห้องใกล้กับที่เกิดเหตุ และตอนช่วงเวลา 08.03 น. ออกจากห้องเช่าดังกล่าวไปก่อเหตุแล้วไม่ได้กลับมาที่ห้องพัก ระหว่างที่จะไปก่อเหตุเวลาประมาณ 08.51 น. นั้น เห็นผู้ตายนั่งรีดผ้าอยู่ใส่กระโจมอกใส่สร้อยคอทองคำ จึงเข้าไปกระชากสร้อยเข้าไปชิงทรัพย์และข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืน จึงใช้มีดแทง โดยที่ไม่ได้ข่มขืนผู้ตายแต่อย่างใด เพียงแค่ทำอนาจารเท่านั้น โดยที่ตนไม่ได้รู้จักกับผู้ตายมาก่อนแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่านายอภิรักษ์เคยมีประวัติเมื่อปี 2549 ถูกจำคุกข้อหาคดีลักทรัพย์ ที่สภ.สวรรคโลก และเมื่อปี 2553 มีหมายจับก่อเหตุคดีอนาจาร
แหล่งข่าวจาก:https://www.khaosod.co.th