ทางการเมียนมาส่งคนไทยกลับ 30 ราย หนึ่งในนั้นมีไอ้เก้าทีเคยช่วยเหลือพาเปรี้ยวหั่นศพหนี เป็นข่าวโด่งดังที่ผ่านมา
เมื่อวันวันนี้ 30 เม.ย. ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรแม่สาย พ.ต.อ. ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรแม่สาย ร.ต.อ.ธนวินท์ พวงมะลิ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเชียงราย นายสุเมธ นันทะเขต ปลัดป้องกันอำเภอแม่สาย
ณ ที่จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย จ.เชียงราย บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ด้านชายแดนแม่สาย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ทางเจ้าหน้าทางการไทยไทยได้รับตัวคนไทย ซึ่งทางการประเทศเมียนมาได้ระบุว่าต้องโทษจำคุกในประเทศเมียนมาและได้พ้นโทษแล้วกลับจำนวน 30 คน โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่ถูกคุมขังด้วยความผิดในคดีต่างๆ กัน และพบว่ายังมีผู้ที่ถูกออกหมายจับโดยทางการไทยอยู่ด้วยจำนวน 4 คน ที่เหลือเป็นผู้ที่พ้นโทษตามปกติ ทำให้ทางการไทยได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับบุคคลทั้งหมดโดยกรณีของผู้ที่พ้นโทษตามปกติและไม่มีหมายจับจากทางการไทยจะนำไปควบคุมตัวที่ร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.จที่ 1) อ.เมืองเชียงราย ส่วนผู้ที่มีหมายจับจำนวน 4 คน จะแยกตัวไปควบคุมคัดกรองที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่มีหมายจับนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้ที่มีหมายจับจากฝั่งไทยพบว่าบางคนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดโก๋แก่มันทุกเม็ด ที่มีนายปัณณวิชญ์ ประทุม ชาว จ.พิจิตร เป็นหัวหน้าเครือข่ายและคาดว่าหลบหนีอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา พร้อมกับญาติที่ที่มีคดียาเสพติดเช่นเดียวกันคือนายวีระหรือวิทย์ หมื่นจะดา ชาว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยทั้งคู่ยังไม่ถูกจับกุมและปล่อยตัวมาพร้อมกับคนไทยทั้ง 30 คนดังกล่าวแต่อย่างใด
ขณะที่ 1 ใน 4 ผู้ที่มีหมายจับจากฝั่งไทยดังกล่าวคือนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือเกล้า อายุ 30 ปี ซึ่งหนีหมายจับศาล จ.ปทุมธานี ในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเมื่อปี 2559 และข้อหาเสพยาบ้าขณะขับขี่รถจากศาล จ.ศรีษะเกษ เมื่อปี 2560 อยู่ด้วย โดยนายธวัชชัยยังมีประวัติว่าเป็นผู้พา น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” อายุ 26 ปี ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าหั่นศพที่ จ.ขอนแก่น แล้วหลบซ่อนตัวไปทำงานที่ร้านโอโซน ใน จ.ท่าขี้เหล็ก โดยหลังจาก น.ศ.ปรียานุช กลับมามอบตัวและถูกดำเนินคดีในฝั่งไทยแล้วนายธวัชชัยก็ถูกตำรวจเมืองเชียงตุงของเมียนมาจับกุม เมื่อปลายเดือน ม.ค.2561 ฐานเป็นในคดีพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและเครื่องกระสุนไว้ในการครอบครองและข้อหาเสพยาเสพติด
ไม่ได้รับอนุญาต ที่เมืองเชียงตุง-และบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีนายอำนาจ จู้ห้อง อายุ 54 ปี ชาว จ.ตรัง ที่มีหมายจับจากศาล จ.ตรัง เมื่อปี 2561 ในข้อหากระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ต่อมาถูกจับในประเทศเมียนมาช่วงต้นเดือน ก.ค.2562 พร้อมพวกรวม 6 คน ซึ่งไปกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
สายฝน – ลุ่มแม่น้ำสาย – ข่าวแม่สายนิวส์ออนไลน์ ////////// รายงาน /////////////