ผู้ว่าฯสุรินทร์เดือด เชือดกำนัน ปล่อย”หนุ่มศรีสะเกษ” เข้าพื้นที่ ตระเวนกินเหล้า จนติดโควิดตาย
สุรินทร์-พิษโควิด 19 ผู้ว่าสั่งฟัน กำนัน ต.โคกสะอาด หลังปล่อยให้หนุ่มศรีสะเกษ เข้าพื้นที่ และติดโรคโควิดจนตาย 1 ศพ ให้พักหน้าที่ ตั้งกรรมการสอบทางวินัยและอาญา
วันนี้ (5 เม.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา ประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา เฟสบุ๊คส่วนตัวของนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.สุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพ ข้อมูลสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยมีข้อความว่า “วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563 สุรินทร์ ยอดผู้ติดเชื้อ 9 คน ใน 9 คน เสียชีวิตไป 1 ราย เมื่อวานนี้ ญาติมาติดต่อรับศพไปฌาปนกิจ ที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เย็นเมื่อวานครับ
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นชาย อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดศรีสะเกษ ก่อนมาทำงานก่อสร้างบ้านที่อำเภอปราสาท มีประวัติการเดินทางมาจากจังหวัดพัทลุง ผมอยากให้เป็นกรณีอุทาหรณ์แก่ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่คือ แทนที่ตัวผู้นำ ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรค ตามพรบ. ควบคุมโรคติดต่อฯ จะต้องดำเนินการกักตัวผู้เสียชีวิตดังกล่าว ไว้ 14 วัน ตามแนวทางควบคุมโรค กลับไม่ดำเนินการกักตัว ปล่อยให้ใช้ชีวิตปกติ ตระเวนกินเหล้าเมายาในหมู่บ้าน จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะคนตายมารับจ้างก่อสร้างบ้านให้ตัวกำนันเอง
การปล่อยปละละเลย ไม่ทำตามหน้าที่ ทำให้คนในหมู่บ้านได้รับผลกระทบ ถึง 47 คน แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 32 คน เสี่ยงต่ำ 16 คน อันนี้เป็นผลมาจากการสอบสวนของชุดสอบสวนควบคุมโรคของจังหวัด และขณะนี้ ได้นำผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงเข้ารับการกักตัวที่โรงพยาบาลบางส่วน และส่วนใหญ่ เข้ารับการกักตัว 14 วันที่โรงเรียนนิคมปราสาท 3 แล้วครับ
สำหรับตัวกำนัน จังหวัดจะได้มีคำสั่งให้พักหน้าที่ไว้ก่อน เพื่อทำการสอบสวนทั้งทางวินัย อาญา และละเมิดต่อไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกำนันคนดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นกำนันตำบลโคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และหลังจากญาติติดต่อรับศพ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายอำพล พิลาดี อายุ 30 ปี ชาวบ้านตาเอกใหม่ ต.กันทรอม (กัน-ทะ-รอม) อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 เม.ย.63 ที่ผ่านมา กลับไปฌาปณกิจที่บ้านเกิดพื้นที่อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษแล้ว โดยมี จนท.จากโรงพยาบาลปราสาท และ จนท.จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกันทรอม สวมชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างรัดกุม เพื่อเคลื่อนย้ายศพที่ห่อหุ้มด้วยวัสดุป้องกันการแพร่เชื้ออย่างรัดกุมเช่นกัน และเมื่อนำศพไปถึง จนท.ก็ได้นำศพขึ้นเมรุเพื่อทำการฌาปนกิจทันที พร้อมกับฉีดยาฆ่าเชื้อรอบบริเวณวัด ก่อนจะได้มีการเก็บกระดูกเพื่อไว้ประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
แหล่งข่าวจาก – ข่าวชัดประเด็นจริง http://www.khaochad.co.th/53032?fbclid=IwAR0wutVxfEL6KZczq312xOzYfFTAPeNO_BNMRbnWdh75AQKxvVAq4soe46M